ซูเจิงชาง นายกรัฐมนตรีไต้หวัน ให้สัมภาษณ์ผู้สื่อข่าว หลังมีรายงานว่า กองทัพไต้หวันได้ยิงโดรนพลเรือนไม่ทราบที่มาตกใกล้ชายฝั่งจีนวานนี้ (1 กันยายน) หลังตรวจพบว่าโดรนลำดังกล่าวรุกล้ำน่านฟ้าบริเวณหมู่เกาะจินเหมิน ซึ่งเป็นหมู่เกาะขนาดเล็กของไต้หวัน ที่อยู่ไม่ไกลจากนครเซียะเหมิน ในมณฑลฝูเจี้ยน ทางตะวันออกเฉียงใต้ของจีน โดยเขาชี้ว่า เป็นการดำเนินการที่เหมาะสมที่สุดหลังจากที่มีการส่งสัญญาณเตือนแล้วหลายครั้ง และจีนควรใช้ความยับยั้งชั่งใจ
กรณีดังกล่าวถือเป็นครั้งแรกหลังรัฐบาลไต้หวันประกาศว่า จะดำเนินมาตรการตอบโต้อย่างรุนแรงต่อการรุกล้ำดินแดนของไต้หวันที่เพิ่มมากขึ้น
โดยที่ผ่านมาไต้หวันได้ย้ำเตือนหลายต่อหลายครั้งถึงการคุกคามจากโดรนที่มาจากจีน ซึ่งบินเข้าใกล้หมู่เกาะจินเหมิน ในระหว่างที่รัฐบาลปักกิ่งเปิดฉากการซ้อมรบรอบเกาะไต้หวันเมื่อช่วงต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา หลังการเยือนไต้หวันของ แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ
ซูกล่าวต่อผู้สื่อข่าวยืนยันว่า ไต้หวันได้ประกาศเตือนซ้ำแล้วซ้ำเล่า และขอให้พวกเขาอย่าเข้ามาใกล้ประตูบ้านของเรา
“พวกเขาเพิกเฉยต่อคำเตือนของเราซ้ำแล้วซ้ำเล่า และเราไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้การป้องกันตัวและการยิง นี่คือปฏิกิริยาที่เหมาะสมที่สุดหลังจากการยับยั้งชั่งใจและคำเตือนหลายต่อหลายครั้ง” เขากล่าว พร้อมชี้ว่า จีนก็ควรใช้ความ ‘ยับยั้งชั่งใจ’ เช่นกัน
“เราจะไม่มีทางยั่วยุและเราจะทำสิ่งที่เหมาะสมที่สุด เพื่อปกป้องแผ่นดินและประชาชนของเรา”
ขณะที่สื่อไต้หวันรายงานท่าทีของสำนักงานกิจการไต้หวันของจีนถึงกรณีที่เกิดขึ้นว่า “ความพยายามของไต้หวันในการทำให้เกิดการเผชิญหน้าระหว่างทั้งสองฝ่ายนั้นเป็นเรื่องไร้สาระอย่างยิ่ง”
แฟ้มภาพ: Photo by Carl Court / Getty Images
อ้างอิง: