รัฐบาลไต้หวันรายงานในวันนี้ (26 ธันวาคม) ว่าอากาศยานของกองทัพอากาศจีนจำนวน 71 ลำ รวมถึงเครื่องบินขับไล่และโดรน ได้บินเข้าสู่เขตแสดงตนเพื่อป้องกันภัยทางอากาศ (Air Defense Identification Zone) ของไต้หวันในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา โดยถือเป็นการรุกล้ำทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมา
กระทรวงกลาโหมไต้หวันระบุว่า ในจำนวนอากาศยานของกองทัพอากาศจีนดังกล่าว รวมถึงเครื่องบิน 43 ลำ ที่บินข้ามเส้นแบ่งกึ่งกลางช่องแคบไต้หวัน ซึ่งเป็นพื้นที่กันชนอย่างไม่เป็นทางการระหว่างทั้งสองฝ่ายที่อยู่ในเขตป้องกัน ขณะที่ปักกิ่งยังคงดำเนินกิจกรรมทางทหารใกล้กับไต้หวันด้วย
ทางด้านจีน ซึ่งยืนยันมาตลอดว่าไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่งของตน ประกาศว่า ได้ทำการฝึกซ้อมรบในทะเลและน่านฟ้ารอบไต้หวัน เมื่อวานนี้ (25 ธันวาคม) เพื่อตอบโต้สิ่งที่รัฐบาลจีนมองว่าเป็นการยั่วยุจากไต้หวันและสหรัฐฯ แต่ไม่ระบุรายละเอียดที่ชัดเจน
ขณะที่รัฐบาลไทเป ระบุว่าการซ้อมรบดังกล่าวแสดงให้เห็นว่าจีนกำลังทำลายสันติภาพในภูมิภาคและพยายามข่มขวัญประชาชนของไต้หวัน
โดยประธานาธิบดีไช่อิงเหวิน กล่าวในพิธีทางทหารช่วงเช้าวันนี้ (26 ธันวาคม) ย้ำถึงความจำเป็นที่ไต้หวันต้องเพิ่มขีดความสามารถในการป้องกันประเทศ เนื่องจาก ‘การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของลัทธิเผด็จการ’ แม้ว่าจะไม่ได้ระบุถึงกิจกรรมทางทหารล่าสุดของจีนก็ตาม
“ยิ่งเราเตรียมการมากเท่าไร โอกาสที่จะมีความพยายามรุกรานก็จะยิ่งน้อยลง ยิ่งเราสามัคคีกันมากเท่าไร ไต้หวันก็จะยิ่งแข็งแกร่งและปลอดภัยมากขึ้น” ไช่กล่าว
ภาพ: Photo by An Rong Xu/Getty Images
อ้างอิง: