เจ้าหน้าที่ระดับสูงของไต้หวันไม่คิดว่าจีนจะใช้ ‘กฎหมายรวมชาติ’ เนื่องจากปักกิ่งจะรู้สึกถูกกดดันมากเกินไปที่จะต้องกำหนดไทม์ไลน์ในการเข้ายึดครองเกาะไต้หวัน
เฉินหมิงตง อธิบดีสำนักงานความมั่นคงแห่งชาติของไต้หวัน แสดงความเห็นต่อกรณีที่มีที่ปรึกษาการเมืองของจีนเสนอเกี่ยวกับกฎหมายดังกล่าว โดยระบุว่าประเด็นนี้เคยเป็นที่ถกเถียงกันมาแล้วก่อนหน้านี้
“นั่นเท่ากับเป็นการกำหนดตารางเวลา ในอดีตสมัยของเติ้งเสี่ยวผิง จีนก็เคยพยายามกำหนดเวลามาแล้ว แต่ท้ายที่สุดก็คิดได้ว่าไม่ทำเช่นนั้นดีที่สุด เพราะมันเป็นการกดดันพวกเขา” เฉินกล่าว โดยอ้างถึงอดีตผู้นำจีนที่ถึงแก่อสัญกรรมในปี 1997
เมื่อปี 2013 ประธานาธิบดีสีจิ้นผิง ของจีน กล่าวกับผู้แทนทางการทูตของไต้หวันว่า การแก้ปัญหาทางการเมืองเพื่อยุติความขัดแย้งเรื่องอำนาจอธิปไตยนั้นไม่อาจถูกเตะถ่วงได้ตลอดไป แต่ถึงกระนั้นสีเองก็ไม่เคยกำหนดไทม์ไลน์เช่นกัน
จีนซึ่งมองไต้หวันเป็นดินแดนส่วนหนึ่ง ยังไม่ได้เสนอกฎหมายดังกล่าวอย่างเป็นทางการ นับตั้งแต่ที่มีการออกกฎหมายฉบับหนึ่งเมื่อปี 2005 ที่ให้ฐานอันชอบด้วยกฎหมาย (Legal Basis) แก่ปักกิ่งในการดำเนินการทางทหาร หากพิจารณาเห็นว่าไต้หวันแยกดินแดนหรือเตรียมแยกดินแดน
อย่างไรก็ดี กฎหมายดังกล่าวถูกพูดถึงในสื่อของทางการจีน และเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว โฆษกสำนักงานกิจการไต้หวันของจีน ถูกถามเกี่ยวกับกรณีที่ที่ปรึกษาทางการเมืองคนหนึ่งเสนอแนะให้มีการใช้กฎหมายดังกล่าว โดยโฆษกตอบว่า ทางการ “รับฟัง รวมทั้งศึกษาความคิดเห็นและข้อเสนอแนะต่างๆ อย่างรอบคอบ”
จีนเพิ่มแรงกดดันทางทหารต่อไต้หวันในช่วงสองปีที่ผ่านมา ขณะที่ไต้หวันปฏิเสธการอ้างอธิปไตยของจีน และกล่าวว่ามีเพียงประชาชนไต้หวันเท่านั้นที่สามารถกำหนดอนาคตของ “เกาะประชาธิปไตย” แห่งนี้ได้
เฉินซึ่งเคยดำรงตำแหน่งประธานสภากิจการแผ่นดินใหญ่ของไต้หวัน กล่าวว่า เขาไม่คิดว่าจีนจะพร้อมสำหรับการโจมตีในปีนี้ เนื่องจากสีจิ้นผิงกำลังเตรียมพร้อมสำหรับการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์ในปลายปีนี้ เพื่อยืนยันการดำรงตำแหน่งประธานาธิบดีของจีนต่อไปเป็นสมัยที่ 3
“เขาต้องรักษาเสถียรภาพ” เฉินกล่าว
ภาพ: Edward Wong / South China Morning Post via Getty Images
อ้างอิง: