หากต้องเกริ่นนำความรู้สึกสั้นๆ เกี่ยวกับ ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ ภาพยนตร์ลำดับที่ 4 แห่ง ‘จักรวาลไทบ้าน’ เรื่องนี้แล้ว เราก็คงต้องขอกล่าวเพียงว่า ‘มันม่วนหลายๆ เด้อ’ พร้อมชวนไปกินอาหารอีสานกับข้าวเหนียวร้อนๆ สักถุง นั่นก็เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้เราคนเมืองเริ่มตกหลุมรักความเป็นอีสานเข้าอย่างจัง
ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้ เป็นความร่วมมือระหว่าง เซิ้ง โปรดักชั่น และ iAM FILM จาก BNK48 โดยยังคงได้ สุรศักดิ์ ป้องศร ผู้ปลุกปั้นจักรวาลไทบ้านมาแล้วทั้ง 3 ภาคกลับมานั่งแท่นผู้กำกับเช่นเดิม พร้อมด้วยชุดนักแสดงจาก ไทบ้านเดอะซีรีส์ อย่าง จ่าลอด (ณัฐวุฒิ แสนยะบุตร), มืด (ธนาดล บัวระบัติ), ครูแก้ว (ธันวาพร นาสมบัติ) และก้อง ห้วยไร่ (อัครเดช ยอดจำปา) ศิลปินเลือดอีสานเจ้าของบทเพลง ไสว่าสิบ่ถิ่มกัน
เรื่องราวของ ไทบ้าน x BNK48 เริ่มขึ้นเมื่อ จ็อบซัง (ณัฐพล บวรวัฒนะ) ผู้จัดการวงเกิร์ลกรุ๊ป BNK48 กำลังริเริ่มโปรเจกต์ใหม่ในการทำเพลงอีสานเพื่อสร้างรูปลักษณ์ใหม่ๆ ให้กับวง เขาจึงส่งสาวๆ ทั้ง 8 คนอย่าง เนย (กานต์ธีรา วัชรทัศนกุล), แก้ว (ณัฐรุจา ชุติวรรณโสภณ), โมบายล์ (พิมรภัส ผดุงวัฒนะโชค), น้ำหนึ่ง (มิลิน ดอกเทียน), ไข่มุก (วรัทยา ดีสมเลิศ), น้ำใส (พิชญาภา นาถา), ตาหวาน (อิสราภา ธวัชภักดี) และปูเป้ (จิรดาภา อินทจักร)
ออกเดินทางสู่ทุ่งนาไปกับ ก้อง ห้วยไร่ โปรดิวเซอร์เพลงอีสานชื่อดัง เพื่อซึมซับวิถีชีวิตของคนอีสาน และร่วมกันสร้างสรรค์บทเพลงที่ผสมผสานระหว่างวิถีชีวิตของชาวอีสานกับตัวตนของพวกเธอขึ้นมา
นับว่าเป็นอีกหนึ่งโมเดลการสร้างคอนเทนต์เพื่อขยายตลาดไปสู่วงกว้างของสาวๆ BNK48 ได้อย่างน่าสนใจ โดยเฉพาะการเสริมภาพความน่ารักแบบ ‘บ้านๆ’ พาสาวๆ ไปอยู่กลางทุ่งนา ไม่ใช่ตู้ปลา หน้าจอ หรือเวทีที่เต็มไปด้วยแสงสีเสียง
ซึ่งทำให้คนดูภาพยนตร์ทั่วประเทศที่ไม่ใช่กลุ่มแฟนคลับเดิมมีโอกาสได้เห็นความสามารถ ความน่ารัก และภาพลักษณ์อีกแบบที่อาจช่วย ‘ตก’ คนทั่วไปให้กลายเป็นโอตะเพิ่มขึ้นก็ได้
อย่างน้อยที่สุด การที่เพลง โดดดิด่ง ที่มีแกนหลักคือเนื้อเพลงภาษาอีสานและจังหวะสนุกๆ มาผสมผสานกับเสียงร้องและท่าเต้นของสาวๆ ทั้ง 8 คน จนกลายเป็นติดหูและมีผู้ชมทะลุ 2 ล้านวิวภายในเวลาไม่ถึง 24 ชั่วโมง ก็นับเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่แม้จะไม่เทียบเท่า แต่ก็เห็น ‘เงา’ ของเพลง คุกกี้เสี่ยงทาย ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
นอกจากนี้ยังมีเพลงประกอบภาพยนตร์ ‘จากใจผู้สาวคนนี้’ ที่ได้โมบายล์มาฝากเสียงร้องหวานซึ้งจับใจ ก็เป็นเครื่องช่วยยืนยันได้ว่าพวกเธอมีความสามารถที่หลากหลาย หากได้รับการฝึกฝนและพัฒนาอย่างจริงจัง
ในส่วนพาร์ตการแสดง เรายังรู้สึกว่าสมาชิกทั้ง 8 ยังไม่ได้รับการท้าทายในสายงานนี้มากนัก เพราะทุกคนได้รับบทเป็นตัวเอง แสดงความเป็นธรรมชาติ ตัวตน และคาแรกเตอร์พื้นฐาน ต่างจากเพื่อนๆ ที่ได้รับโอกาสใน Where We Belong หรือซีรีส์ One Year 365 วัน บ้านฉัน บ้านเธอ
แต่ก็ยังได้เห็นพัฒนาการของสมาชิกหลายคนที่โดดเด่นออกมา โดยเฉพาะ เนย หนึ่งในตัวละครที่มีบทบาทสำคัญในเรื่อง ก็สามารถสื่ออารมณ์ในฉากดราม่า ร้องไห้ได้ทั้งเศร้าและสวย นับว่าทำได้ดีเกินคาดกับการแสดงภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอ ส่วนสมาชิกคนอื่นๆ ก็ยังรักษาจุดเด่นคาแรกเตอร์ของตัวเองไว้ได้เมื่อมีบทปรากฏออกมาบนจอ
ปัญหาเล็กๆ ที่เรารู้สึกติดใจอยู่บ้างคือการที่ต้องให้น้ำหนักกับวิถีชีวิตในจักรวาลไทบ้านเข้ากับคาแรกเตอร์ของ BNK48 ทำให้ประเด็นเรื่อง ‘ความพยายาม’ ในการปรับตัวและฝึกซ้อมเพื่อทำเพลงใหม่กลายเป็นประเด็นที่เบาบาง จนเราไม่ได้ลุ้นไปกับผลงานที่พวกเธอกำลังทุ่มเททำกันอยู่เท่าไรนัก
แต่สิ่งที่ ไทบ้าน x BNK48 ทำได้ดีและชดเชยสิ่งที่ขาดหายไปได้ก็คือการให้สาวๆ เป็นตัวแทนของการ ‘เปิดใจ’ เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในวิถีชีวิตของชาวอีสาน
การได้เห็นพวกเธอลงไปดำนา จับปลาดุก นอนกางมุ้ง ลิ้มรสอาหารอีสานกลางทุ่งนาอันกว้างใหญ่ที่แสนลำบาก แต่เมื่อเปิดตาและเปิดใจ ทุกคนจะได้ค้นพบว่ามีความหมายและความงดงามของชีวิตในแบบที่ไม่เคยสัมผัสมาก่อนรออยู่
เหมือนกับที่เนยได้พูดเอาไว้ในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า
“ข้างนอกคือสิ่งใหม่ที่เราต้องเรียนรู้”
ร่วมเดินทางสัมผัสวิถีชีวิตของคนอีสานไปพร้อมๆ กับสาว BNK48 ใน ‘ไทบ้าน x BNK48 จากใจผู้สาวคนนี้’ วันที่ 23 มกราคมนี้ในโรงภาพยนตร์
สามารถรับชมตัวอย่างภาพยนตร์ได้ที่
ภาพประกอบโดย
https://www.facebook.com/thibaanxbnk48/
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์