ปฏิบัติการค้นหาผู้รอดชีวิตจากใต้ซากปรักหักพังของอาคารบ้านเรือนที่พังถล่มจากเหตุแผ่นดินไหวใหญ่ในตุรกีและซีเรีย จนถึงเมื่อวานนี้ (11 กุมภาพันธ์) ซึ่งเป็นวันที่ 5 พบว่าตัวเลขผู้รอดชีวิตที่ช่วยเหลือได้นั้นลดน้อยลง ในขณะที่ยอดรวมผู้เสียชีวิตเพิ่มขึ้นสูงกว่า 28,000 รายแล้ว โดยกว่า 24,000 รายพบในตุรกี และยังมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นอีกมาก
อย่างไรก็ตาม ในพื้นที่ประสบภัยจังหวัดฮาทาย ทางตอนใต้ของตุรกี มีรายงานเหตุการณ์ความไม่สงบ หลังเกิดการปะทะกันระหว่างกลุ่มประชาชนในพื้นที่และมีเสียงปืนดังขึ้น ส่งผลให้ทีมกู้ภัยของเยอรมนีและเจ้าหน้าที่บรรเทาภัยพิบัติของกองทัพออสเตรียต้องระงับการค้นหา เนื่องจากกังวลต่อความปลอดภัย และต้องหาที่หลบภัยในค่ายพักพิงร่วมกับเจ้าหน้าที่องค์กรระหว่างประเทศอื่นๆ
หนึ่งในเจ้าหน้าที่กู้ภัยเปิดเผยว่า สถานการณ์ความปลอดภัยในพื้นที่ประสบภัยส่อแววเลวร้ายมากขึ้น ท่ามกลางเสบียงอาหารที่เริ่มลดน้อย โดยสื่อท้องถิ่นรายงานว่า มีผู้ถูกจับกุมเกือบ 50 คน เนื่องจากลักขโมย และทางการสามารถยึดปืนได้หลายกระบอก
ขณะที่ประธานาธิบดีเรเจป ไตยิป แอร์โดอัน ของตุรกี ประกาศระหว่างเดินทางตรวจเยี่ยมพื้นที่ประสบภัยพิบัติเมื่อวานนี้ โดยเตือนว่าจะใช้อำนาจฉุกเฉินลงโทษใครก็ตามที่ฝ่าฝืนกฎหมาย และหลังเกิดเหตุการณ์ปะทะดังกล่าวไม่กี่ชั่วโมง ทางกระทรวงกลาโหมตุรกีออกมายืนยันว่ากองทัพตุรกีจะเข้ามาให้ความคุ้มครอง ส่งผลให้ปฏิบัติการกู้ภัยสามารถกลับมาดำเนินการต่อได้
ภาพ: Adsiz Gunebakan / Anadolu Agency via Getty Images
อ้างอิง:
