×

ทำไม ‘สวิตเซอร์แลนด์’ อาจเข้าสู่เศรษฐกิจถดถอย? ภาษีสหรัฐ 39% สะเทือนวงการนาฬิกาหรู ชาวสวิสนับหมื่นคนเสี่ยงตกงาน

04.08.2025
  • LOADING...
เศรษฐกิจ สวิตเซอร์แลนด์

3 แบรนด์นาฬิกาสวิสและยา เสี่ยงอ่วมภาษีทรัมป์ 39% รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์หาทางเจรจาก่อน 7 ส.ค. หวั่นสะเทือนเศรษฐกิจเข้าสู่ภาวะถดถอย กระทบแรงงานนับหมื่นคน

 

กาย ปาร์เมลิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า รัฐบาลสวิตเซอร์แลนด์พร้อมที่จะแก้ไขข้อเสนอกับสหรัฐอเมริกา เพื่อรับมือกับภาษีนำเข้าที่พุ่งสูง ซึ่งผู้เชี่ยวชาญเตือนว่า ภาษีนำเข้า 39% ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศไว้ อาจก่อให้เกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย (Recession) ในสวิตเซอร์แลนด์

 

หลังจากที่ทรัมป์ตอบโต้ภาษีสัปดาห์ที่ผ่านมา สร้างความตระหนกตกใจให้กับสวิตเซอร์แลนด์ด้วยภาษีนำเข้าที่สูง เรียกได้ว่าเป็นการจัดระเบียบการค้าโลกใหม่ ขณะที่สมาคมอุตสาหกรรมเตือนว่าตำแหน่งงานหลายหมื่นอัตรา ‘อาจตกอยู่ในความเสี่ยง’

 

ล่าสุดคณะรัฐมนตรีของประเทศจะจัดการประชุมพิเศษเพื่อหารือในขั้นตอนต่อไป โดยปาร์เมลินกล่าวกับสถานีโทรทัศน์ RTS ว่า รัฐบาลจะดำเนินการอย่างรวดเร็วก่อนที่สหรัฐฯ จะจัดเก็บภาษีศุลกากรในวันที่ 7 สิงหาคม

 

“เราจำเป็นต้องเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่เกิดขึ้น เหตุผลที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ตัดสินใจเช่นนี้ แต่ด้วยกรอบเวลาค่อนข้างจำกัด อาจเป็นเรื่องยากที่จะบรรลุผลสำเร็จภายในวันที่ 7 สิงหาคม แต่เราจะทำทุกวิถีทางเพื่อแสดงเจตนารมณ์ที่ดีและแก้ไขข้อเสนอที่เรามี” ปาร์เมลินกล่าว

 

ปาร์เมลินกล่าวอีกว่า ทรัมป์ให้ความสำคัญกับการขาดดุลการค้าระหว่างสหรัฐฯ กับสวิตเซอร์แลนด์ มูลค่า 3.85 หมื่นล้านฟรังก์สวิส (4.8 หมื่นล้านดอลลาร์) ในปีที่แล้ว

 

โดยสวิตเซอร์แลนด์อยู่ระหว่างพิจารณาซื้อก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) จากสหรัฐฯ เป็นหนึ่งในทางเลือกลดดุลการค้าอีกหนึ่งทางเลือก คือการลงทุนเพิ่มเติมของบริษัทสวิสในสหรัฐอเมริกา ซึ่งเป็นตลาดส่งออกที่ใหญ่ที่สุดของสวิตเซอร์แลนด์สำหรับผลิตภัณฑ์ยา นาฬิกา และเครื่องจักร

 

“บางทีอาจจะต้องลงทุนเพิ่ม แต่เพื่อให้แน่ใจว่าเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งเพียงพอสำหรับการเจรจา เราต้องทำความเข้าใจอย่างถ่องแท้ถึงสิ่งที่สหรัฐฯ คาดหวัง” โดย ปาร์เมลินกล่าวว่า ตัวเขาและประธานาธิบดีคาริน เคลเลอร์-ซัตเตอร์ ของสวิตเซอร์แลนด์ ก็พร้อมที่จะเดินทางไปยังวอชิงตันเพื่อเจรจาด้วยตัวเองหากจำเป็น

 

อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่สวิสปฏิเสธรายงานที่ระบุว่า มีการเรียกเก็บภาษีนำเข้าที่สูงเกินกว่าที่คาดการณ์ไว้ หลังจากการสนทนาทางโทรศัพท์อย่างดุเดือดระหว่างเคลเลอร์-ซัตเตอร์ และทรัมป์ เมื่อช่วงค่ำวันพฤหัสบดี

 

แหล่งข่าวรัฐบาลกล่าวกับ Reuters อีกว่า การเรียกร้องของสวิตเซอร์แลนด์ยังไม่ประสบผลสำเร็จ แต่ก็ไม่มีการตอบโต้กลับใดๆ มีเพียงทรัมป์ที่แสดงให้เห็นอย่างชัดเจนตั้งแต่แรกเริ่มว่า เขามีมุมมองที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิง นั่นคือภาษีนำเข้า 10% อาจไม่เพียงพอ

 

“เรากำลังทำงานอย่างหนักเพื่อหาทางออก และกำลังติดต่อกับฝ่ายอเมริกา เราหวังว่าจะหาทางออกได้ก่อนวันที่ 7 สิงหาคม” แหล่งข่าวกล่าวเสริม

 

3 แบรนด์นาฬิกาสวิส-ยา เสี่ยงอ่วมภาษีทรัมป์ 39% 

 

รายงานข่าวระบุว่า เมื่อวันที่ 1 ส.ค. สหรัฐฯ ทรัมป์เตรียมเก็บภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariff) อัตรา 39% กับสินค้านำเข้าจากสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งจะมีผล 7 สิงหาคมนี้ทันที หลังดีลการค้าแบบทวิภาคีเจรจาไม่เป็นผล โดยดุลการค้าเสียเปรียบกว่า 38,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 1.36 ล้านล้านบาท) 

 

ทั้งนี้ หากสหรัฐฯ เก็บภาษีที่สูงถึง 39% จะส่งผลโดยตรงกับสวิตเซอร์แลนด์อย่างมาก โดยเฉพาะวงการนาฬิกาหรูที่มีการส่งออกไปสหรัฐฯ กว่า 6,000 ล้านดอลลาร์ (ราว 2.15 แสนล้านบาท) ไม่ว่าจะเป็น Rolex, Patek Philippe, Audemars Piguet และอีกหลายๆ แบรนด์ โดย 3 แบรนด์ดังกล่าวถือเป็นแบรนด์ที่ครองตลาดนาฬิกาหรูของโลกอีกด้วย ซึ่งล่าสุดร้านค้าบางแห่งเริ่มปรับราคาแล้ว 10-15% และคาดว่าแนวโน้มจะขยับขึ้นอีก

 

ขณะที่ตลาด Pre-owned (ตลาดมือสอง) อาจกลับมาคึกคักอีกครั้ง เนื่องจากราคา Retail เพิ่มสูงขึ้น การซื้อมือสองจึงตอบโจทย์กว่าเดิม

 

สำนักข่าว Bloomberg ระบุว่า บริษัทผลิตช็อกโกแลตสวิสชื่อดัง LINDT และผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำอย่าง Swatch Group จะได้รับผลกระทบหนักจากมาตรการภาษีครั้งนี้ และอาจส่งผลต่อยอดขายในตลาดที่ใหญ่ที่สุดของโลก 

 

ขณะที่ยาและเวชภัณฑ์ซึ่งคิดเป็นเกือบครึ่งหนึ่งของการส่งออกสินค้าสวิสไปยังสหรัฐฯ ในปี 2024 อาจต้องเผชิญกับความท้าทายเพิ่มขึ้นเท่าตัว เนื่องจากเศรษฐกิจสวิตเซอร์แลนด์พึ่งพาการส่งออกอุตสาหกรรมยา Novartis และ Roche ซึ่งเป็นบริษัทยาข้ามชาติสัญชาติสวิสที่ใหญ่ที่สุดในโลก 

 

ทั้งสองบริษัทมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่เมืองบาเซิล ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ซึ่งมีบทบาทสำคัญในการวิจัย พัฒนา และผลิตยารักษาโรคที่หลากหลาย ต้องเผชิญกับแรงกดดันหนัก เนื่องจากทรัมป์มีนโยบายกดดันให้บริษัทยาลดราคา และเรียกร้องให้ 17 ประเทศผู้ส่งออกยากำหนดราคาที่เป็นธรรมกับสหรัฐฯ อีกด้วย

 

ภาพ: Robert Hradil / Getty image 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising