ราคาหุ้น บมจ.เอสวีโอเอ หรือ SVOA ยังปรับขึ้นต่อเนื่องจากเมื่อวานนี้ โดยวันนี้ (25 พฤศจิกายน) เปิดการซื้อขายช่วงเช้าที่ 2.62 บาท จากนั้นปรับตัวขึ้นทำราคาสูงสุดที่ 3.02 บาท คิดเป็นการปรับตัวเพิ่มขึ้น 25.83% โดยก่อนหน้านี้หุ้น SVOA มีราคาสูงสุดอยู่ที่ 2.84 บาท เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม 2564
เทิดศักดิ์ ทวีธีระธรรม ผู้ช่วยกรรมการผู้อำนวยการ ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส กล่าวว่า หุ้นกลุ่มสินค้าไอทีร้อนแรงมาสักระยะหนึ่งแล้ว และราคาหุ้นของหุ้นกลุ่มผู้นำ เช่น ผู้ค้าปลีกสินค้าไอทีอย่าง COM7 SYNEX ก็ปรับตัวขึ้นมามาก ทำให้นักลงทุนที่เชื่อมั่นในการเติบโตของกลุ่มนี้เริ่มมองหาหุ้นที่ยังมีราคา Laggard
ทั้งนี้ประเมินการเติบโตของกลุ่มสินค้าไอทีจะยังโตต่อเนื่องได้ในปี 2565 แม้จะหมดกระแส Work from Home แล้วก็ตาม เนื่องจากเทรนด์ Metaverse และ IoT จะมาผลักดันให้ตลาดนี้มีสินค้าใหม่ๆ ขึ้นมาจำหน่ายแก่ผู้บริโภคมากขึ้น ไมได้จำกัดอยู่เพียงโทรศัพท์มือถือหรือคอมพิวเตอร์เท่านั้น
ณัฐพล คำถาเครือ ผู้อำนวยการฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) กล่าวว่า ราคาหุ้นบมจ.เอสวีโอเอ (SVOA) ปรับตัวขึ้นต่อเนื่องจากวานนี้ด้วยวอลุ่มเทรดที่เข้ามาอย่างหนาแน่น คาดว่าจะเป็นการเข้ามาเล่นเก็งกำไรของนักลงทุน เนื่องจาก SVOA ขายสินค้าพวกไอที มีการเล่นตาม COM7 และ IT ที่ได้เล่นกันขึ้นไปก่อนหน้านี้แล้ว ซึ่งสินค้าไอทีมีสัญญาณที่เติบโตดี อย่างมือถือยี่ห้อ Apple ก็ยังขายดี และก่อนหน้านี้พวกชิป และการขนส่งที่เคยขาดแคลนก็เริ่มคลายตัวแล้ว
โดยราคาปัจจุบันของ SVOA อยู่ใกล้ระดับ Book Value (BV.) จึงยังถือว่ายัง Laggard จากกลุ่มสินค้าไอที ที่เทรด BV. 5-6 เท่า
หากพิจารณาในเชิงปัจจัยพื้ยฐานของ SVOA ถือว่ามีความแข็งแกร่งด้านฐานลูกค้าภาครัฐและเอกชนอย่างมาก เนื่องจาก 1. SVOA เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการวางระบบไอทีแก่หน่วยงานภาครัฐและเอกชน โดยเฉพาะกลุ่มธุรกิจการเงิน 2. SVOA มีฐานลูกค้ากลุ่มค้าส่งสินค้าไอทีด้วย ผ่านการขายส่งสินค้าให้กับ IT City ซึ่ง SVOA เป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ ถือหุ้นอยู่ 30.48% จึงรับรู้ทั้งส่วนแบ่งกำไร และมียอดขายเข้ามาต่อเนื่อง
“ตอนนี้นักลงทุนกำลังมองหาหุ้นในกลุ่มสินค้าไอทีที่ราคายังไม่ปรับขึ้นมาก เพราะนักลงทุนเชื่อว่าเทรนด์ของ Metaverse และ IoT จะกลายเป็นเทรนด์หลักในอนาคต ทำให้เริ่มมองหาหุ้นในกลุ่มที่คาดว่าจะได้รับประโยชน์จากเทรนด์นี้ ที่ราคายัง Laggard อยู่ จะเห็นได้ว่าก่อนหน้านี้หุ้นกลุ่มสินค้าไอทีที่ราคาค่อนข้างนิ่งก็ปรับขึ้นไปหมดแล้ว ไม่ว่าจะเป็น SPVI CPW และ IT”
อย่างไรก็ตาม SVOA มีความเสี่ยงจากการลงทุนในหุ้น LIT หรือ บมจ.ลีซ อิท ในสัดส่วน 35.80% และถือครอง LIT-W1 อยู่ด้วย ซึ่ง LIT กำลังอยู่ระหว่างการเพิ่มทุน ทำให้ SVOA อาจต้องใส่เงินเพิ่มทุนเพื่อรักษาสัดส่วนการถือหุ้น และมีความเสี่ยงจากการที่ราคา LIT-W1 ปรับลดลง
ทั้งนี้รายชื่อผู้ถือหุ้นรายใหญ่ 5 อันดับแรก ประกอบด้วย
- มินทร์ อิงค์ธเนศ ถือหุ้น 26.82%
- BNP PARIBAS SINGAPORE BRANCH ถือหุ้น 8.83%
- ชวลิต จรัสโชติพินิต ถือหุ้น 4.97%
- วิจิตร โภคะกุล ถือหุ้น 4.45%
- เขต หวั่งหลี ถือหุ้น 2.05%
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP