“No Problem” วาทะทางการเมืองอันเป็นภาพจำของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ อดีตนายกรัฐมนตรี ถูกฟื้นกลับมาเป็นสโลแกนของพรรคชาติพัฒนา โดยเทวัญ ลิปตพัลลภ หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา คนที่ 5 อดีตประธานสโมสรนครราชสีมา มาสด้า เอฟซี
(วันนี้ 23 พ.ย.) สุวัจน์ ลิปตพัลลภ อดีตรองนายกรัฐมนตรี และอดีตรัฐมนตรี 7 กระทรวงตอบรับเข้าเป็นที่ปรึกษาพรรคชาติพัฒนา (ชพน.) หลังเมื่อช่วงเช้า เทวัญพร้อมกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ มีมติเอกฉันท์ให้สุวัจน์เป็นที่ปรึกษาด้านต่างๆ เพื่อนำพาพรรคชาติพัฒนาไปสู่การเลือกตั้ง จากนั้นกรรมการบริหารพรรคชาติพัฒนาเดินทางมาที่บ้าน 333 ย่านราชวิถี เพื่อเรียนเชิญสุวัจน์อย่างเป็นทางการ
จุดยืน No Problem ไม่ขัดแย้ง ไม่สร้างปัญหาทางการเมือง
สุวัจน์กล่าวหลังตอบรับตำแหน่งว่า พรรคชาติพัฒนากำลังปรับตัวให้เข้ากับโลกยุคปัจจุบันด้วยการผสมผสานระหว่างกรรมการบริหารพรรคที่เป็นคนรุ่นใหม่ และคณะที่ปรึกษาพรรคที่คร่ำหวอดทางการเมือง
จุดยืนของพรรคชาติพัฒนา คือจะไม่ขัดแย้งกับใคร จะไม่สร้างปัญหาทางการเมือง ตามสโลแกนของพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ ผู้ก่อตั้งพรรคที่ว่า “No Problem”
พร้อมเชื่อว่าการเลือกตั้งจะเกิดขึ้นวันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2562 ตามกรอบที่ผู้มีอำนาจระบุไว้ เพราะยังไม่เห็นปัจจัยเลื่อนเลือกตั้ง แต่เป็นห่วงเรื่องกติกาการเลือกตั้งแบบใหม่ ซึ่งใช้บัตรใบเดียวเลือก ส.ส. เขต และนำคะแนนไปคำนวณ ส.ส. บัญชีรายชื่อ เพราะประชาชนส่วนมากยังไม่เข้าใจกติกาอย่างถ่องแท้
อย่างไรก็ตาม อนาคตทางการเมืองของสุวัจน์ยังไม่ชัดเจนในตอนนี้ โดยปฏิเสธที่จะตอบคำถามสื่อมวลชนเมื่อถามว่าจะลงเลือกตั้ง ส.ส. หรือจะมีชื่ออยู่ในบัญชีนายกฯ ของพรรคชาติพัฒนา หรือไม่ โดยกล่าวว่า ไม่ได้เป็นสิ่งที่อยู่ในใจว่าจะลงเลือกตั้งหรือไม่ แต่คิดอย่างเดียวว่าบ้านเมืองมีปัญหา ต้องทำให้ No Problem ไม่มีปัญหา
ภารกิจรักษาพรรคชาติพัฒนาให้เป็นพรรคขนาดกลาง
สุวัจน์กล่าวด้วยว่า ดีใจมากที่ผู้บริหารพรรคชาติพัฒนายึดถือแนวคิดของพลเอก ชาติชาย โดยเห็นว่าแนวคิด ‘หันหน้าเข้าหากันสร้างสรรค์เศรษฐกิจไทย’ ยังเป็นประโยคอมตะและเข้ากับสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ที่สุด พร้อมประกาศตัวเป็นพรรคทางสายกลาง เป็นทางเลือกและทางออกของประเทศ
“ทิศทางของพรรคชาติพัฒนาก็จะเป็นพรรคขนาดกลาง แต่ตามกติกาการเลือกตั้งครั้งนี้อาจจะต้องเติมพรรคขนาดจิ๋วลงไปด้วย เพราะถ้าได้ 70,000 คะแนนก็ได้ ส.ส. 1 คนแล้ว เพราะฉะนั้นการเลือกตั้งครั้งนี้เราอาจจะเห็นพรรคการเมืองที่มี (ส.ส.) 1 เสียง หรือ 2-3 เสียงเกินขึ้นเยอะ เพราะเป็นการปฏิรูปการเมือง เปิดโอกาสให้ทุกคนและคนรุ่นใหม่มีประตูเข้าสู่ระบบการเมือง”
ทั้งนี้ในส่วนของพรรคชาติพัฒนา ด้วยพื้นฐานเก่าของพรรค และมีแนวทางการเมืองชัดเจนโดยยึดถือแนวทางของพลเอก ชาติชาย เชื่อว่าทุกท่านมีศักยภาพที่จะรักษาความเป็นพรรคขนาดกลางไว้ได้
มั่นใจรักษาฐานคะแนนโคราชไว้ได้
“พรรคชาติพัฒนา คือ พรรคของคนโคราช” สุวัจน์ตอบอย่างไม่ลังเล พร้อมแสดงความมั่นใจว่าจะสามารถรักษาฐานคะแนนเดิมของโคราชเอาไว้ได้ ซึ่งการเลือกตั้งที่จะมาถึง โคราชมีเขตเลือกตั้งถึง 14 เขต
“เวลคัม ทู โคราช” จึงเสมือนคำท้าทายจากสุวัจน์ เมื่อนักข่าวถามว่าจะรับมืออย่างไรเมื่อเวลานี้มีพรรคการเมืองหลายพรรคส่งผู้สมัครหวังดึงคะแนนในพื้นที่
สุวัจน์บอกว่า พรรคชาติพัฒนาเป็นพรรคที่ผูกพันกับชาวโคราชและเข้าใจปัญหาของโคราชมากที่สุด โดยวันเสาร์ที่ 24 พฤศจิกายน สุวัจน์พร้อมกรรมการบริหารพรรคจะลงพื้นที่โคราช เยือนอนุสรณ์สถานพลเอก ชาติชาย ชุณหะวัณ หรือ สวนน้าชาติ พร้อมเข้าไปกราบสักการะหลวงพ่อคูณ ณ วัดบ้านไร่ ซึ่งเป็นพระเกจิที่มีความผูกพันกับพลเอก ชาติชาย
แม้จะประกาศตัวเป็นพรรคโคราช แต่เมื่อการเลือกตั้งต้องเป็นพรรคของคนทั้งประเทศ สุวัจน์ก็มั่นใจว่าพรรคชาติพัฒนามีอดีต ส.ส. ที่มีฐานเสียงในพื้นที่อื่นๆ เพียงพอ และพร้อมสำหรับการเลือกตั้งตามกติกาที่ผู้มีอำนาจกำหนดโดยไม่วิพากษ์วิจารณ์ใดๆ
สำหรับพรรคชาติพัฒนา ลงสมัครสู้ศึกเลือกตั้ง ส.ส. ครั้งแรกเมื่อวันที่ 13 กันยายน 2535 ภายใต้การนำของพลเอก ชาติชาย ได้ที่นั่งในสภา 60 ที่นั่ง สูงเป็นอันดับ 3 รองจากพรรคประชาธิปัตย์ และพรรคชาติไทย
จากนั้นมาพรรคชาติพัฒนา ก็ประคองตัวเป็นพรรคขนาดกลาง มีจำนวน ส.ส. ในสภาติดลำดับต่อรองร่วมรัฐบาลมาได้ต่อเนื่อง
ขณะที่การเลือกตั้งเมื่อปี 2554 พรรครวมชาติพัฒนา และพรรคเพื่อแผ่นดิน ได้ประกาศรวมตัวกันโดยใช้ชื่อพรรคใหม่ว่า ‘พรรคชาติพัฒนาเพื่อแผ่นดิน’ โดยต่อมามีการประกาศยุบพรรค และเปลี่ยนกลับไปใช้ชื่อ พรรคชาติพัฒนา ดังเดิม
ส่วนการเลือกตั้งที่จะมาถึงในปี 2562 ช่วงแรกมีกระแสข่าวว่าพรรคชาติพัฒนา จะเข้าไปรวมกับพรรคพลังประชารัฐ ก่อนจะมีการปฏิเสธกระแสข่าว และประกาศตั้งกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ชูสโลแกนพลเอก ชาติชาย เตรียมสู้ศึกเลือกตั้งอีกครั้ง
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์