วันนี้ (30 พฤศจิกายน) ที่สนามฝึกใช้อาวุธทางอากาศชัยบาดาล จังหวัดลพบุรี สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานพิธีเปิดการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธี ประจำปี 2567 พร้อมด้วย พล.อ. สนิธชนก สังขจันทร์ ปลัดกระทรวงกลาโหม, พล.อ. ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด โดยมี พล.อ.อ. พันธ์ภักดี พัฒนกุล ผู้บัญชาการทหารอากาศ ให้การต้อนรับ
มั่นใจศักยภาพ ทอ. ทัดเทียมภูมิภาค
สุทินกล่าวเปิดการฝึกว่า การแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีจัดขึ้นเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้เหล่าทัพ หน่วยเกี่ยวข้อง รวมถึงพี่น้องประชาชน ได้เห็นเป็นที่ประจักษ์ถึงศักยภาพและความพร้อมในการรักษาเอกราช อธิปไตย ตลอดจนการบรรเทาสาธารณภัยของกองทัพอากาศ
ขอให้คณะกรรมการจัดการแข่งขันและผู้เกี่ยวข้องทั้งหมดได้ตระหนักถึงวัตถุประสงค์ของการจัดการแข่งขัน คำนึงถึงความปลอดภัยและนิรภัยอย่างเคร่งครัด เพื่อให้การแข่งขัน การปฏิบัติ การทางอากาศยุทธวิธีประสบความสำเร็จ สมความมุ่งหมายทุกประการและขอให้การแข่งขันและผู้เกี่ยวข้องประสบความสำเร็จในการปฏิบัติภารกิจปราศจากภยันตรายทั้งปวง
หลังจากนั้น สุทินให้สัมภาษณ์ว่า หลังจากดูศักยภาพของกองทัพในวันนี้ถือว่าได้ข้อคิดอยู่หลายเรื่อง ทำให้เกิดความเชื่อมั่นในศักยภาพของกองทัพ อยากให้ประชาชนที่ไม่เคยเห็นการฝึก ไม่ว่าจะเป็นการทิ้งระเบิดที่แม่นยำมาก ถือเป็นเรื่องไม่น่าเชื่อในสภาพอากาศที่ลมแรงเช่นนี้ และยังได้ข้อมูลว่าในฝูงบินหรือในเครื่องบินหลายลำที่นำมาประยุกต์ และได้มีการพยายามที่จะซ่อมบำรุงขึ้นมา จนใช้ได้ ได้เห็นความพยายามที่เราได้ใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่า หมดอายุก็นำมาปรับซ่อมในหลายฝูงบิน
และที่สำคัญทราบมาว่ามีการซ่อมบำรุงในประเทศไทย ก็เป็นการยืนยันได้ว่าอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทยมีคุณภาพ โดยเฉพาะฝูงบิน T-6 ก็ประกอบและขับทดลองในไทยด้วย ได้ข้อคิดที่ว่านอกจากความเชื่อมั่นศักยภาพของกองทัพแล้ว ตนก็เชื่อมั่นอุตสาหกรรมป้องกันประเทศของไทย และเชื่อมั่นว่าจะส่งเสริมให้อุตสาหกรรมการป้องกันประเทศของเราเป็นอุตสาหกรรมอีกอย่างหนึ่ง นอกจากประหยัดค่าใช้จ่ายแล้ว สามารถนำเงินเข้าสู่ประเทศ ช่วยรัฐบาลและส่งเสริมรายได้ในอื่นๆ ได้
ไฟเขียวซื้อเครื่องบินรบ ทดแทนของเก่า
สุทินยังระบุด้วยว่า สำหรับการจัดซื้อใหม่นั้นตนก็เห็นด้วย เพราะบางอย่าง การซ่อมบำรุงก็ทำได้ในระดับหนึ่ง ต้องมีเครื่องบินลำใหม่มาทดแทน แต่จะให้ซื้อเท่าที่จำเป็น และก็นำรายการต่างๆ ที่จะจัดซื้อเข้าสู่คณะกรรมการคุณธรรม เพื่อพิจารณาถึงความจำเป็น และการใช้งบประมาณที่คุ้มค่า ซึ่งหากซื้อในกรอบของหลักคิดเช่นนี้ตนเชื่อว่าจะสามารถอธิบายสังคมได้
“ศักยภาพของกองทัพอากาศถือว่าไม่เป็นรองใครในภูมิภาคนี้ สามารถปกป้องอธิปไตยของประเทศได้ แต่หากกรณีเกิดสงครามใหญ่จริงๆ อาจต้องลงทุนลงแรงเสริมกันพอสมควร เพราะเท่าที่มีคงไม่พอ” สุทินกล่าว
ปีหน้าจ่อเชิญ กรธ.กมธ.ครุภัณฑ์ฯ เยี่ยมชม
สุทินระบุอีกว่า ในปีต่อไปตนจะเชิญคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ ICT รัฐวิสาหกิจ และทุนหมุนเวียน สภาผู้แทนราษฎร ได้มาเยี่ยมชมและมาเห็นด้วย
สำหรับการแข่งขันการปฏิบัติการทางอากาศยุทธวิธีได้รับการพัฒนาปรับปรุงรูปแบบจากการแข่งขันใช้อาวุธทางอากาศประจำปีในอดีต ซึ่งเป็นกิจกรรมสำคัญที่สุดอย่างหนึ่งของกองทัพอากาศทั่วโลก ในการทดสอบและประเมินขีดความสามารถการใช้อาวุธและการปฏิบัติภารกิจของนักบินและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเป็นรายบุคคล หมู่บิน ฝูงบิน หรือหน่วยรบ โดยในปัจจุบันได้เพิ่มเติมรูปแบบให้สอดคล้องครอบคลุมกับภารกิจของกองทัพอากาศมากยิ่งขึ้นทั้งในการปฏิบัติการทางทหารและการปฏิบัติการทางทหารนอกเหนือจากสงคราม
ตั้ง ‘จิรายุ’ เป็นโฆษก กห. ฝ่ายการเมือง
ขณะเดียวกัน สุทินกล่าวถึงการเตรียมชี้แจงพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2567 ว่า ตนได้กำชับว่าจะต้องอธิบายให้ได้ว่ามีความจำเป็นอย่างไร และจะนำไปใช้ให้เกิดความคุ้มค่าได้อย่างไร รวมไปถึงการจัดซื้อจัดจ้างมีความโปร่งใสอย่างไร ซึ่งตนคิดว่าทั้ง 3 หลักนี้ทางกองทัพจะต้องชี้แจง
เมื่อถามว่าการแต่งตั้ง จิรายุ ห่วงทรัพย์ เป็นโฆษกกระทรวงกลาโหม (กห.) ฝ่ายการเมือง มีเหตุผลอย่างไรนั้น สุทินกล่าวว่า ในงานของกระทรวงกลาโหม ยุคนี้มีประเด็นค่อนข้างเยอะ ซึ่งโฆษกประจำที่เป็นข้าราชการไม่ถนัดที่จะไปตอบโต้กับนักการเมือง ซึ่งตนเห็นใจโฆษกที่เป็นข้าราชการ จึงคิดว่าน่าจะต้องมีโฆษกกระทรวงกลาโหมที่สามารถพูดเรื่องการเมืองได้แบบไร้ข้อจำกัด พร้อมคิดว่าจิรายุน่าจะเหมาะสม
“จิรายุคุยกับ วิโรจน์ ลักขณาอดิศร และ รังสิมันต์ โรม สส. บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ก็น่าจะเหมาะ ผมคิดว่าปากและภูมิปัญญาทันกัน” สุทินกล่าว
เมื่อถามว่าจะมีการพิจารณาแต่งตั้งใครเพิ่มเติมอีกหรือไม่นั้น สุทินกล่าวว่า ต้องรอดูไปก่อน หากจิรายุรับมือได้ก็ไม่จำเป็น ซึ่งตอนนี้ขอใช้คนเท่าที่จำเป็นก่อน
เมื่อถามว่าได้มีการประเมินแล้วใช่หรือไม่ว่าในปี 2567 กระทรวงกลาโหมจะรับศึกหนักทั้งการชี้แจงงบประมาณศึกซักฟอง สุทินกล่าวว่า ใช่ ก็มีส่วนถูก และอีกอย่างหนึ่งคือสถานการณ์ของโลก ไม่มีใครยืนยันได้ว่าภัยสงครามและไม่ความสงบจะมาถึงไหน เพราะหากมีเรื่องภัยสงคราม กระทรวงกลาโหมก็จะเป็นตัวหลัก ประเด็นก็จะเกิดกับกระทรวงมากมาย เพราะฉะนั้นเรื่องที่จะพูดคุยชี้แจงก็จะมีมากตามไปด้วยซึ่งเราก็ต้องพร้อม