วันนี้ (29 สิงหาคม) ที่สำนักงานเลขาธิการคณะรัฐมนตรี สุทิน คลังแสง แกนนำพรรคเพื่อไทย เดินทางมาเพื่อส่งประวัติของตัวเองให้ตรวจสอบคุณสมบัติ
โดยหลังจากนำเอกสารขึ้นไปส่งเรียบร้อยแล้วได้ลงมาให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน ระบุว่า วันนี้รู้แต่ว่าตนเป็นหนึ่งใน 35 รายชื่อที่เป็นรัฐมนตรี ส่วนจะเป็นตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมหรือไม่ ตนยังไม่มั่นใจ เป็นเพียงกระแสข่าว ส่วนวันนี้ตนมายื่นโดยไม่ได้ระบุตำแหน่ง
เมื่อถามว่าถ้ามานั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมมีความพร้อมไปทำงานร่วมกับทหารหรือไม่ สุทินระบุว่า พร้อมทำงานทุกกระทรวง และตนมีความตั้งใจดี มีร่างกายแข็งแรง สู้งานได้ ตนทำงานได้ทุกรูปแบบ ทุกบุคลิก
เมื่อถามว่าสิ่งแรกที่จะทำหากได้เป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมคืออะไร สุทินระบุว่าขอให้ได้เป็นก่อนแล้วจะบอก ตอนนี้ยังไม่เหมาะที่จะพูด
เมื่อถามว่านโยบายที่หาเสียงเกี่ยวกับกองทัพไว้จะผลักดันให้เป็นรูปธรรมอย่างไรนั้น สุทินกล่าวว่า ทุกนโยบายเราต้องทำได้ช้าหรือเร็วต้องดูความเป็นจริงและองค์ประกอบ
เมื่อถามว่าให้ความสบายใจกับคนในกองทัพอย่างไร เพราะหลายส่วนมองว่าไม่สันทัดในเรื่องของความมั่นคง สุทินระบุว่า ตนมองว่าทุกอย่างเรียนรู้ได้จากคนในกระทรวงกลาโหม ส่วนทีมงานตอนนี้ยังไม่ได้เล็งใครเอาไว้ ต้องรอให้โปรดเกล้าฯ และให้รู้ชัดเจนว่าเป็นรัฐมนตรีกระทรวงใด แล้วค่อยหาทีมงาน แต่ยอมรับว่ามีอดีตทหารที่พูดคุยด้วย ซึ่งเป็นคนที่รู้จักมักคุ้นกัน แต่ไม่ได้คุยอะไรมากมาย เพราะทุกคนก็ไม่มั่นใจ
เมื่อถามว่าจะใช้ไม้นวมหรือไม้แข็งในการดูแลกองทัพ สุทินระบุว่า ทุกที่ที่ตนไปทำงานตนจะให้เกียรติ และยึดความเป็นจริงสิ่งไหนทำได้เร็วก็จะดำเนินการ สิ่งไหนทำไม่ได้มีข้อจำกัดก็เข้าใจกัน และเดินไปพร้อมกัน
เมื่อถามว่าคนในกองทัพไม่เชื่อว่าสุทินจะมาเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อยากฝากอะไรถึงทหารหรือไม่ สุทินยอมรับว่า ใช่ ถ้าได้เป็นจริงๆ เดี๋ยวจะบอก ทุกวันนี้ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะเป็นจริงหรือไม่
ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวถามว่า รู้สึกชินหรือไม่ที่ถูกเรียกว่า บิ๊กทิน สุทินกล่าวว่า ยังตกใจอยู่เลย พร้อมกล่าวทีเล่นทีจริงว่า ถ้าเป็นนามสกุล ผมก็ชนะแล้ว พร้อมย้ำว่าทุกวันนี้เดากันทั้งหมด ยังไม่ชัวร์
เมื่อถามถึงนโยบายการยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่เคยหาเสียงไว้จะปรับมาเป็นสมัครใจเป็นทหารหรือไม่ สุทินกล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกัน เมื่อ ครม.ชุดใหม่ ออกมาแล้วคงต้องมาคุยเรื่องนโยบายรัฐบาลอีกครั้ง เพราะต้องฟังทุกๆ พรรค และปรับให้สอดคล้องกับกองทัพว่าทำได้หรือไม่ หากทำไม่ได้ก็ต้องดูว่าเราจะต้องช่วยหน่วยปฏิบัติเติมเต็ม ประสาน ตอนนี้เป็นแค่นโยบายพรรค
เมื่อถามว่ารู้สึกหนักใจหรือกังวลหรือไม่หากต้องมาคุมกระทรวงกลาโหม สุทินกล่าวว่า ตนไม่หนักใจ และไม่ถือว่าเป็นงานหิน งานทุกกระทรวงตนเคยนั่งคิดว่าทำได้ เรามีความตั้งใจดี ตั้งใจเรียนรู้ และให้เกียรติข้าราชการทุกคน เราก็ไปได้
“ตอนนี้ผมยังไม่รู้ว่าจะได้เป็นจริงหรือไม่ แต่หากได้เป็นจริงก็ไม่แปลกหรอก อาจจะมีพลเรือนมานั่งเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั่วโลกก็มี อาจจะเป็นมิติใหม่ของบ้านเมืองเราด้วย และได้พบเห็นสิ่งใหม่ๆ” สุทินกล่าว
ส่วนเหตุการณ์หลังการรัฐประหารที่ถูกทหารกักตัวไว้ จะมีปัญหาทำงานร่วมกับทหารอย่างสนิทใจหรือไม่นั้น สุทินกล่าวว่า เรื่องผ่านมาแล้วตนไม่ได้คิดอะไร ทำงานด้วยกันได้ ตอนนั้นไปโดนไปกักตัวที่จังหวัดราชบุรี 3 คืน จังหวัดร้อยเอ็ด 4 คืน