วันนี้ (2 พฤศจิกายน) สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงกรณีที่พรรคก้าวไกลออกมาระบุถึงเหตุผลที่รัฐบาลเพื่อไทยไม่กล้ายุบกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เนื่องจากเกรงกลัวทหาร
โดยสุทินถามกลับว่า หากก้าวไกลเป็นรัฐบาลจะกล้ายุบหรือไม่ “เขาเป็นแล้วเขาจะกล้ายุบไหม” และกล่าวต่อว่า คนยังไม่เป็นก็พูดได้ ซึ่งการจะยุบต้องประเมิน มีปัจจัยหลายเรื่อง บางเรื่องพูดได้ บางเรื่องพูดไม่ได้ และบางข้อมูลเปิดเผยไม่ได้ ดังนั้นคนที่ยังไม่ได้เป็นรัฐบาลก็พูดได้ทุกอย่าง แต่พอมาเป็นแล้วต้องมาดูความเป็นไปได้อีกครั้ง
สุทินยังกล่าวถึงการปรับโครงสร้างกำลังพลของกองทัพว่า คณะทำงานมีการสรุปข้อมูลมาเป็นระยะ ขณะนี้เป็นขั้นตอนการเสนอแนวทางว่าจะปรับอย่างไร จึงยังไม่เห็นกำลังพลลด เพราะยังไม่ได้ดำเนินการ ซึ่งหากมีการปรับตามแผนเดิมของกองบัญชาการกองทัพไทยที่ทำไว้ ปี 2570 กำลังพลจะลดลงมาก และมีการเติมมาตรการจูงใจเกษียณอายุราชการก่อนกำหนด
ส่วนตัวเลขจะปรับลดลงเหลือเท่าใด ขณะนี้กำลังทำตัวเลขอยู่ แต่ยืนยันว่าจะลดลงมาก พร้อมย้ำว่าในปี 2570 กำลังพลในชั้นนายพลจะลดลงไม่น้อยกว่าร้อยละ 20-30 จากเดิมร้อยละ 10 โดยเงินที่ใช้ในโครงการเกษียณอายุราชการก่อนกำหนดน้อยกว่างบประมาณที่จะใช้หากข้าราชการอยู่จนครบอายุงาน ซึ่งจะส่งผลให้ทั้งงบประมาณและกำลังพลลดลง ขณะเดียวกันภารกิจจะปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยเฉพาะการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่
ทั้งนี้ สุทินกล่าวถึงประเด็นผู้สมัครใจเข้ารับราชการทหารกองเกินผ่านระบบออนไลน์ว่า ในปีนี้มีผู้สมัครจำนวนมากขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา เมื่อวาน (1 พฤศจิกายน) เป็นวันรายงานตัวรอบแรก ที่ผ่านมาในทุกปีเมื่อถึงวันรายงานตัวจะมีการเปลี่ยนใจเป็นจำนวนมาก แต่ในปีนี้พบว่าไม่มีผู้เปลี่ยนใจ
สุทินกล่าวต่อว่า ความรู้สึกของประชาชนถือเป็นสัญญาณบวกกับกองทัพ และขอประชาสัมพันธ์ไปยังบุตรหลาน เยาวชน เดิมการเป็นทหารเกณฑ์ 2 ปี คิดว่าเป็นการเสียโอกาส ทำให้ชีวิตสะดุด แต่ขณะนี้กองทัพจะทำให้ 2 ปีเป็นการเพิ่มโอกาสให้กับชีวิต ทุกคนที่เข้ามาเป็นทหารเกณฑ์จะได้รับโอกาสใหม่ๆ ที่ดี
จะเป็น 2 ปีในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ทั้งด้านการรบและการศึกษาที่จะทำ MOU กับกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ซึ่งจะเป็นการนำร่องในบางมหาวิทยาลัยก่อน และสุดท้ายจะครอบคลุมทั้งหมด ขณะเดียวกัน โรงเรียนนายสิบก็ขยายโอกาสเพิ่มโควตาในสัดส่วนของทหารกองเกินมากขึ้น
