วานนี้ (29 มิถุนายน) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีการออกหมายจับโบว์ ผู้ต้องหาซึ่งมีพยานหลักฐานว่าเป็นคนใกล้ชิดบอย ผู้ต้องหาที่ร่วมกับเจ้าหน้าที่เรียกทรัพย์ผู้ต้องหาเว็บไซต์พนันออนไลน์ 140 ล้านบาท โดยตำรวจพบความเคลื่อนไหวทางการเงิน
และกรณีที่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ ประธานชมรมช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรม นำผู้ต้องหาไปร้องเรียนต่ออัยการ ว่าเจ้าหน้าที่ทำหน้าที่โดยมิชอบ หรือขอตรวจสอบการทำงานของเจ้าหน้าที่ในคดีนี้
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า ส่วนตัวไม่ได้กังวลใจในเรื่องนี้ เพราะเชื่อว่าตำรวจทำตามขั้นตอนของกฎหมาย พร้อมให้ทุกส่วนตรวจสอบ
ในเรื่องของคดีการเรียกรับทรัพย์ 140 ล้านบาท ขณะนี้ยังไม่มีอะไรต้องน่าหนักใจเช่นกัน ชุดทำงานอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานหาความเชื่อมโยงไปถึงผู้เกี่ยวข้องทั้งหมด คาดกว่าภายใน 2 สัปดาห์จะเห็นตัวละครทั้งหมดและสามารถปิดคดีนี้ได้
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวต่อว่า บอยไม่ได้ติดต่อขอเข้ามอบตัวแล้ว และคาดว่าจะไม่มามอบตัวเนื่องจากข้อหาที่ถูกดำเนินคดีไม่สามารถให้ประกันตัวได้ จึงได้ประสานกระทรวงการต่างประเทศให้ช่วยออกหนังสือหมายแดงติดตามตัวมาดำเนินคดี ส่วนทรัพย์ที่พบว่าเป็นของบอยจะยึดไปตรวจสอบทั้งหมด
ส่วนนายตำรวจที่มีรายชื่อให้มาช่วยราชการที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หากไม่พบว่ามีความผิดก็จะส่งตัวกลับ แต่ส่วนไหนที่มีการแจ้งข้อกล่าวหาไปแล้วก็สามารถโต้แย้งได้ทั้งหมด ซึ่งชุดคลี่คลายคดีมีหน้าที่รวบรวมพยานหลักฐานหาความเชื่อมโยงทั้งหมด ทั้งนี้ใครผิดก็ว่าไปตามผิด
พล.ต.อ. สุรเชษฐ์กล่าวว่า ไม่ได้คิดที่จะทำงานเอาหน้าเพื่อเป็นแคนดิเดตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เพียงแต่ทำงานไปตามหน้าที่ของตำรวจ ส่วนเรื่องของรางวัลและการตอบแทนให้เป็นการพิจารณาของผู้บังคับบัญชา จากนี้ไปใครที่ทำงานจริงๆ ก็ต้องได้รับการตอบแทน
วันนี้สามารถเห็นได้จากสื่อ ต้องพูดเรื่องจริงทำจริง ถ้าทำไม่จริง ทำหลอกๆ ไปอยู่ได้ไม่นาน สุดท้ายประชาชนก็จะรู้เอง ยินยอมให้ทุกส่วนสามารถตรวจสอบการทำงานได้ ยิ่งผ่านกระบวนการตรวจสอบได้ยิ่งดี ถือว่าทำงานด้วยความบริสุทธิ์และไม่ได้เป็นผู้ขัดแย้ง