วันนี้ (3 ธันวาคม) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีสื่อดังในเยอรมนีตีแผ่สารคดีขบวนการค้าประเวณีเด็กในไทย อ้างผู้ต้องหาต่างชาติ 2 คนจ่ายสินบน 1 ล้านบาทแล้วหลบหนีได้
โดยระบุว่า ในฐานะที่ตนรับผิดชอบคดีขณะนั้น คดีนี้เกิดในพัทยา ได้มีการสั่งให้จับกุมและขยายผล ซึ่งเดิมเรื่องนี้เกิดจากกรมการปกครองเข้าไปจับกุมการค้าประเวณีเด็ก พบว่ามีชาวเยอรมันสองคนเป็นผู้ใช้บริการเด็กอายุต่ำกว่า 18 ปี จึงออกหมายจับและจับกุมผู้ต้องหาชาวต่างชาติทั้ง 2 คน
ซึ่งในฐานะที่ตนกำกับดูแลศูนย์ต่อต้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ ได้สั่งการให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินการตามกฎหมายควบคุมตัว ต่อมาทราบว่าศาลให้ประกันตัว
ซึ่งในส่วนของสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองหรือ ตม. ก็ได้ขึ้นแบล็กลิสต์ไว้แล้วว่าห้ามออกนอกประเทศ แต่เนื่องจากเจ้าตัวไปยื่นคำร้องต่อศาลเพื่อขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศ ศาลจึงอนุญาต เมื่อศาลอนุญาตก็สามารถเดินทางออกนอกประเทศได้
รับส่งผลกระทบภาพลักษณ์ตำรวจ
กรณีนี้ส่วนของตำรวจ ขณะนี้กำลังตรวจสอบ เพราะถ้าตามระเบียบแล้วทันทีที่มีการจับกุมชาวต่างชาติ พนักงานสอบสวนต้องแจ้งต่อสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองให้ทราบ เพราะหากประกันตัวออกมาแล้วจะต้องถูกควบคุมตัวที่ห้องขังของสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) ขณะนี้กำลังตรวจสอบว่าเป็นพนักงานสอบสวนของ สภ.เมืองพัทยา และมีการรายงานตามระเบียบหรือไม่ ซึ่งพรุ่งนี้ก็จะทราบผล และจะแถลงข่าวในวันอังคาร (5 ธันวาคม) ยอมรับว่าเรื่องนี้เป็นเรื่องที่เสียหาย
ส่วนกรณีที่ผู้ต้องหาชาวต่างเดินทางออกนอกประเทศแล้วจะสามารถเรียกตัวกลับมาได้หรือไม่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ระบุว่า เรื่องนี้อัยการสั่งฟ้องแล้ว แต่จากการตรวจสอบ อัยการก็คัดค้านการประกันตัว แต่ศาลก็ให้ประกันตัว และศาลอนุญาตให้ออกนอกประเทศ เขาจึงมีสิทธิ์ออกนอกประเทศ แต่ตามขั้นตอนแล้วต้องกลับมาขึ้นศาล ตำรวจทราบว่าสัปดาห์หน้ามีกำหนดการขึ้นศาล แต่หากไม่มาต้องออกหมายจับ เป็นหมายแดง (อินเตอร์โพล)
ส่วนตำรวจถือว่าบกพร่องหรือไม่นั้น ก็ต้องตรวจสอบว่าพนักงานสอบสวนได้รายงานไปที่ สตม. หรือไม่ เพราะกรณีชาวต่างชาติถูกจับประกันตัวในชั้นโรงพักไม่ว่าจะประกันตัวในชั้นโรงพักหรือชั้นศาลก็ต้องถูกควบคุมตัวในห้องขังของ ตม. ไม่สามารถออกไปเพ่นพ่านได้ แต่ถ้าพนักงานสอบสวนไม่รายงานการจับกุมไปที่ สตม. ทางศาลก็ไม่ทราบเรื่อง คดีนี้คล้ายกับผับจินหลิง เมื่อไม่มีการแจ้งไปยัง สตม. ผู้ต้องหาก็ออกมาเดินเพ่นพ่านได้
ส่วนเจ้าหน้าที่ตำรวจที่ถูกพาดพิงว่ารับสินบน วันนี้ได้สั่งให้ชุดสืบสวนตรวจสอบทั้งหมดแล้ว รวมถึงเส้นทางการเงินด้วย หากพบความผิดก็ต้องมาดำเนินคดี พร้อมยืนยันว่าเป็นการกระทำผิดรายบุคคลไม่ใช่กระบวนการ เพราะเป็นเรื่องของการซื้อบริการ ไม่ใช่เรื่องของการค้ามนุษย์
ยันหากผิดจริงต้องถูกดำเนินคดี
เมื่อถามว่าเรื่องนี้กระทบต่อความเชื่อมั่นของตำรวจหรือไม่ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ระบุว่า ตำรวจทำดีก็มีเยอะ แต่ทำไม่ดีก็มีเยอะ ดังนั้นต้องแยกน้ำเสียออกจากน้ำดีให้ได้ ตำรวจคนไหนไม่ดีก็ต้องลงโทษ ในสถานการณ์ปัจจุบันตำรวจต้องปรับพฤติกรรม วันนี้ระบบตรวจสอบมีเยอะ ไม่เหมือนเมื่อก่อน ขณะที่ผู้กระทำผิดกลับไปอยู่เยอรมนีก็ยังโพสต์ได้เลย ทุกอย่างสามารถตรวจสอบได้ ถ้าผมทำผิดก็ต้องดำเนินคดี