×

‘เบสเซ็นต์’ มั่นใจศาลสูงสุดจะพิพากษา สนับสนุน ‘ภาษีทรัมป์’ พร้อมเผยมีแผนสำรองหากคำตัดสินไม่เป็นใจ

02.09.2025
  • LOADING...
ศาลสูงสุด ภาษีทรัมป์

รมว.คลังสหรัฐฯ เชื่อว่าศาลสูงสุดจะตัดสินสนับสนุน ‘ภาษีทรัมป์’ ให้เดินหน้าต่อไปได้

 

วันที่ 1 กันยายน ตามเวลาท้องถิ่น สก๊อต เบสเซ็นต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ คาดว่า ศาลสูงสุด (Supreme Court) ของสหรัฐฯ จะมีคำวินิจฉัยสนับสนุนการใช้อำนาจตามกฎหมายภาวะฉุกเฉินปี 1977 เพื่อตั้งกำแพงภาษีกับทุกประเทศคู่ค้า ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายหลักของโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ 

 

“ผมมั่นใจว่าศาลสูงสุดจะสนับสนุนอำนาจในการใช้กฎหมาย IEEPA ของประธานาธิบดี และแม้จะมีกฎหมายมาตราอื่นๆ ให้เลือกใช้ก็ตาม ก็ยังไม่มีมาตราใดที่มีประสิทธิภาพหรือทรงพลังเทียบเท่ามาตรา IEEPA” เบสเซ็นต์ กล่าว

 

เบสเซ็นต์ระบุว่ากำลังจัดทำคำแถลงสรุปคดีเพื่อส่งให้รองอธิบดีกรมอัยการ ผู้ซึ่งทำหน้าที่กำกับดูแลการอุทธรณ์ของรัฐบาลต่อศาลสูงสุด และคาดว่าจะส่งให้ทันภายในวันอังคารหรือวันพุธนี้ โดยจะเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนในการแก้ปัญหาดุลการค้าที่ไม่สมดุลมาหลายทศวรรษ รวมถึงเหตุผลที่ต้องเร่งสกัดกั้นการลักลอบนำเข้ายาเฟนทานิล ซึ่งคร่าชีวิตชาวอเมริกันหลายพันคน

 

เมื่อวันศุกร์ที่ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา ศาลอุทธรณ์กลางสหรัฐฯ มีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7 ต่อ 4 ว่า ทรัมป์ใช้อำนาจเกินขอบเขตภายใต้กฎหมายที่เรียกว่า International Emergency Economic Powers Act (IEEPA) ปี 1977 โดยระบุว่าไม่มีส่วนใดที่ระบุถึงอำนาจในการขึ้นภาษีอากรอย่างชัดเจน แต่ยังคงอนุญาตให้ภาษีมีผลต่อไปถึงวันที่ 14 ตุลาคม เพื่อเปิดทางให้ฝ่ายบริหารยื่นอุทธรณ์ต่อศาลสูงสุด

 

คำตัดสินของศาลจะครอบคลุมมาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal) ที่เริ่มประกาศใช้ในเดือนเมษายน รวมถึงภาษีที่เรียกเก็บเพิ่มกับแคนาดา เม็กซิโก และจีนในเดือนกุมภาพันธ์ แต่จะไม่มีผลต่อภาษีรายกลุ่มสินค้า (Sectoral) ที่เรียกเก็บภาษีเพิ่มเติมจากเหล็กและอะลูมิเนียมนำเข้า 

 

ทั้งนี้ เบสเซ็นต์ยังเผยถึงแผนสำรองในการเลือกใช้กฎหมายมาตราอื่นๆ เพื่อขึ้นภาษี โดยระบุว่า อาจนำกฎหมาย Smoot-Hawley Tariff Act of 1930 มาใช้ตั้งกำแพงภาษีสินค้านำเข้าสูงสุดที่ 50% ต่อประเทศใดก็ตามที่พบว่าเลือกปฏิบัติทางการค้ากับสหรัฐฯ

 

ทรัมป์เหลือแผนสำรองอย่างน้อย 5 แนวทาง

 

หากศาลสูงสุดยึดคำตัดสินตามศาลอุทธรณ์ และไม่อนุญาตให้ทรัมป์ใช้กฎหมาย IEEPA ขึ้นภาษี สถานการณ์นโยบายภาษีอาจยังไม่จบง่ายๆ เพราะทรัมป์ยังมีโอกาสขึ้นภาษีได้อีก 5 แนวทาง ดังนี้

 

  • มาตรา 232: ขึ้นภาษีด้วยเหตุผลด้านความมั่นคง ได้ไม่จำกัดอัตราภาษี และระยะเวลา แต่ต้องผ่านการเห็นชอบโดยกระทรวงพาณิชย์
  • มาตรา 201: ขึ้นภาษีได้เลยไม่ต้องตรวจสอบ ด้วยเหตุผลด้านปัญหาการชำระเงินระหว่างประเทศ โดยจำกัดที่อัตรา 15% ภายในระยะ 150 วัน แต่ขยายเวลาได้ผ่านการเห็นชอบจากสภาคองเกรส 
  • มาตรา 301: ขึ้นภาษีเพื่อปกป้องอุตสาหกรรมภายในประเทศ สูงสุด 50% เฉพาะในปีแรก โดยจำกัดเวลา 4 ปี และสามารถขยายได้สูงสุด 8 ปี ต้องผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมาธิการการค้าระหว่างประเทศ (ITC)
  • มาตรา 122: ขึ้นภาษีได้ทันที หากพบว่ามีการกีดกันการค้ากับสหรัฐฯ สูงสุด 50% ไม่จำกัดระยะเวลา
  • มาตรา 338: ขึ้นภาษีได้ไม่จำกัดอัตราภาษี โดยจำกัดเวลา 4 ปี แต่อาจขยายได้ไม่จำกัดเวลา หากพบการเลือกปฏิบัติ หรือละเมิดข้อตกลงการค้ากับสหรัฐฯ โดยต้องผ่านการเห็นชอบจากผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) 

 

อ้างอิง: 

 

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising