×

ผลที่อาจตามมาในการเลือกตั้งสหรัฐฯ ปี 2024 เมื่อศาลสูงให้เอกสิทธิ์คุ้มครองประธานาธิบดีจากคดีอาญา

04.07.2024
  • LOADING...

เมื่อช่วงเช้าของวันที่ 2 กรกฎาคมที่ผ่านมา ตามเวลาท้องถิ่นของสหรัฐอเมริกา ศาลสูงสุดของสหรัฐฯ (Supreme Court) ออกคำตัดสินคดีที่สำคัญมากสำหรับการเลือกตั้งในปี 2024 ซึ่งก็คือคดีที่ โดนัลด์ ทรัมป์ อดีตประธานาธิบดี พยายามจะอ้างเอกสิทธิ์คุ้มครอง (Immunity) โดยระบุว่า อัยการพิเศษ แจ็ค สมิธ ไม่มีสิทธิ์สั่งฟ้องเขาในคดีการพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งปี 2020 และเหตุการณ์จลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม 2021 โดยที่ผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยม 6 คนโหวตเห็นชอบกับทรัมป์ และผู้พิพากษาสายเสรีนิยม 3 คนโหวตในทิศทางตรงข้าม

 

บทความนี้จะวิเคราะห์ถึงผลที่อาจจะเกิดหลังคำตัดสินนี้ ทั้งผลกระทบต่อการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนที่จะถึงนี้ ตลอดจนผลในระยะยาวต่อการใช้อำนาจของทำเนียบขาว

 

ศาลสูงสุดตัดสินเข้าข้างทรัมป์

 

คำตัดสินที่ออกมาอาจไม่ผิดไปจากที่นักวิเคราะห์ทางการเมืองคาดไว้ เพราะผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยมทั้ง 6 คน (โดยที่ 3 คนแต่งตั้งโดยทรัมป์เอง) โหวตเข้าข้างทรัมป์ โดยระบุว่า ประธานาธิบดีมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง ไม่สามารถถูกดำเนินคดีอาญาได้ หากการกระทำนั้นทำออกมาในฐานะการทำหน้าที่ประธานาธิบดี (Official Act) แต่ก็ยังเว้นช่องไว้ว่าประธานาธิบดีสามารถถูกดำเนินคดีอาญาได้ในการกระทำส่วนตัว (Unofficial Act)

 

เหตุผลที่ผู้พิพากษาสายอนุรักษนิยมให้ไว้ในการตัดสินครั้งนี้ก็คือ พวกเขากังวลว่าหากประธานาธิบดีต้องมาพะว้าพะวังกับการถูกฟ้องร้องในภายหลัง ก็อาจทำให้เขาไม่สามารถตัดสินใจบริหารประเทศได้อย่างอิสระ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของประเทศมาก่อนความปลอดภัยส่วนตัวและเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดการ ‘เช็กบิล’ จากนักการเมืองฝ่ายตรงข้ามหลังจากที่เขาหมดอำนาจ อันจะนำไปสู่การล้างแค้นทางการเมืองอย่างไม่มีจุดสิ้นสุด

 

แต่อย่างไรก็ดี ผู้พิพากษาสายเสรีนิยมไม่เห็นด้วยกับคำกล่าวอ้างนี้ โดยที่พวกเขาระบุว่า การให้เอกสิทธิ์คุ้มครองเช่นนี้จะทำให้ประธานาธิบดีมีอำนาจอย่างไม่มีขีดจำกัดจนเกือบจะเหมือนเป็นพระราชา เพราะเขาไม่ต้องรับผิดชอบต่อการกระทำใดๆ เลย ผู้นำของผู้พิพากษาสายเสรีนิยมอย่าง โซเนีย โซโตเมยอร์ ถึงกับระบุลงไปในคำพิพากษาของเธอว่า คำตัดสินเช่นนี้ก็เหมือนกับศาลสูงสุดให้อำนาจกับประธานาธิบดีสั่งฆ่าใครก็ได้โดยใช้กำลังของกองทัพ (เพราะประธานาธิบดีมีหน้าที่ในการเป็นผู้นำสูงสุดของกองทัพอีกตำแหน่ง และการใช้กำลังทหารก็ย่อมเป็น Official Act ในฐานะประธานาธิบดี) โซโตเมยอร์กล่าวว่า ศาลสูงสุดกำลังจะสร้างทรราชและทำลายการปกครองในรูปแบบประชาธิปไตย

 

ผลกระทบต่อการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายน

 

แน่นอนว่าคำตัดสินในครั้งนี้ย่อมเป็นคุณต่อทรัมป์ เพราะนั่นทำให้โอกาสที่เราจะได้เห็นการสืบพยานของคดีพยายามล้มล้างผลการเลือกตั้งและเหตุการณ์จลาจลที่รัฐสภาเมื่อวันที่ 6 มกราคม ปี 2021 กลายเป็นศูนย์ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 

 

เพราะคำตัดสินเรื่องเอกสิทธิ์คุ้มครองนี้ทำให้ศาลชั้นต้นต้องกลับไปพิจารณาใหม่ว่า คำสั่งฟ้องชิ้นไหนของสมิธถือเป็น Unofficial Act ที่สามารถนำมาสืบต่อได้ ซึ่งหลังจากที่ศาลชั้นต้นตัดสินแล้ว ทรัมป์ก็คงจะใช้สิทธิ์ในการอุทธรณ์ต่อว่า ทุกคำฟ้องเป็น Official Act ที่นำมาฟ้องไม่ได้ และมีความเป็นไปได้ว่าเรื่องจะกลับขึ้นไปถึงศาลสูงสุดอีกครั้ง เพราะในการตัดสินครั้งนี้ศาลสูงสุดไม่ได้ให้บรรทัดฐานไว้อย่างชัดเจนว่าเส้นแบ่งระหว่าง Official Act กับ Unofficial Act อยู่ตรงไหน ซึ่งก็เป็นที่แน่นอนว่าการตัดสินย่อมต้องใช้เวลาและจะไม่ได้ออกมาก่อนการเลือกตั้งในเดือนพฤศจิกายนอย่างแน่นอน

 

คำตัดสินนี้ถือเป็นข่าวดีชิ้นใหญ่ข่าวที่สองของทรัมป์ในรอบหนึ่งสัปดาห์ หลังจากเมื่ออาทิตย์ที่แล้วคู่แข่งของเขาอย่าง โจ ไบเดน ทำผลงานได้อย่างย่ำแย่ในการดีเบต จนทำให้ชาวอเมริกันมองว่าเขาอาจมีภาวะสมองเสื่อม จนทำให้คะแนนนิยมของเขาลดน้อยไปอีกหลายเปอร์เซ็นต์ ข่าวดีทั้งสองข่าวนี้ทำให้โอกาสที่ทรัมป์จะชนะเลือกตั้ง ได้กลับมาเป็นประธานาธิบดีรอบสองนั้นสดใสเหลือเกิน

 

Power tends to corrupt, and absolute power corrupts absolutely. 

 

คำตัดสินนี้ถือเป็นครั้งแรกที่ศาลสูงสุดระบุว่าประธานาธิบดีมีเอกสิทธิ์คุ้มครอง เพราะแต่เดิมนั้นทุกฝ่ายเข้าใจตรงกันว่าประธานาธิบดีสามารถถูกดำเนินคดีอาญาได้ เหมือนกับที่ ริชาร์ด นิกสัน เคยเกือบจะโดนในคดีวอเตอร์เกต แต่ก็ได้รับการอภัยโทษ (Pardon) ล่วงหน้าจาก เจอรัลด์ ฟอร์ด ประธานาธิบดีคนต่อจากเขา เสียก่อน ซึ่งนั่นก็แปลว่า ประธานาธิบดีทุกๆ คนหลังจากนี้จะสามารถออกคำสั่งอะไรก็ได้ในฐานะประธานาธิบดี โดยที่ไม่ต้องกังวลกับโอกาสถูกดำเนินคดีในอนาคต ส่งผลให้เกิดความกังวลจากหลายฝ่ายว่า ประธานาธิบดีที่มีอำนาจมากอยู่แล้วจะกลายเป็นมีอำนาจล้นฟ้า ซึ่งนั่นก็อาจเป็นจุดเริ่มต้นของการก่อกำเนิดทรราชและเป็นจุดจบของประชาธิปไตยแบบที่เรารู้จัก ดังที่ผู้พิพากษาโซโตเมยอร์ได้แสดงความกังวลเอาไว้

 

เกาะติด การเลือกตั้งสหรัฐ 2024 ได้ที่ เว็บไซต์พิเศษ : เลือกตั้งสหรัฐฯ 2024 และ Facebook : THE STANDARD

 

ภาพ: Justin Sullivan / Getty Images

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X