×

ศุภวุฒิเผย รัฐบาลไทยเตรียมเจรจาปรับลดภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ชี้ทางรอดนำเข้าสินค้าเกษตร ผุดสินเชื่อปลอดดอกเบี้ยต่ำ 3,000 ล้าน อุ้มภาคเอกชนไทย

โดย THE STANDARD TEAM
07.04.2025
  • LOADING...

วันนี้ (7 เมษายน) ศุภวุฒิ สายเชื้อ ที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงแนวทางการเจรจานโยบายการค้ากับสหรัฐอเมริกา โดยให้ข้อมูลแนวทางการเจรจาและยุทธศาสตร์ที่เตรียมไว้ เพื่อรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้น โดยเฉพาะการใช้ประโยชน์จากความสามารถในอุตสาหกรรมแปรรูปอาหารของประเทศว่า วัตถุประสงค์หลัก การปรับเพิ่มภาษีของสหรัฐอเมริกามี 3 ข้อ คือ 

 

1. เพื่อลดการถูกเอาเปรียบจากการขาดดุลทางการค้า และสร้างสมดุลทางการค้าให้กับสหรัฐอเมริกา

 

2. เพื่อนำรายได้ที่เพิ่มขึ้นจากการเก็บภาษีไปลดภาระการขาดดุลงบประมาณของสหรัฐฯ เพื่อขยายเวลาการลดภาษีให้คนรวยในสหรัฐฯ 

 

และ 3. เพื่อดึงผู้ประกอบการและกลุ่มบริษัทของสหรัฐฯ ให้ย้ายฐานการผลิตกลับไปที่สหรัฐอเมริกา 

 

ดังนั้น การดำเนินการรีบเร่งเจรจาเหมือนประเทศอื่นๆ อาจไม่ส่งผลดีกับประเทศนั้นนัก เนื่องจากไม่สามารถทราบถึงความต้องการที่แท้จริงของแนวทางการขึ้นภาษีของ โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา อาทิ ประเทศแคนาดาและเวียดนาม ซึ่งเป็นประเทศที่เกินดุลกับสหรัฐฯ แม้ว่าทั้ง 2 ประเทศได้เร่งดำเนินการเจรจาไปก่อนหน้า หรือแม้แต่สหราชอาณาจักรที่ขาดดุลการค้ากับสหรัฐฯ แต่สุดท้ายทุกประเทศที่ไปเจรจากลับถูกขึ้นภาษีเช่นกัน 

 

ดังนั้น สิ่งที่รัฐบาลเตรียมไว้คือการคิดแผนยุทธศาสตร์และมาตรการรองรับ เพื่อเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจา

 

ทั้งนี้ ศุภวุฒิเน้นย้ำว่า รัฐบาลไทยโดยการดำเนินการของคณะทำงาน ได้จัดเตรียมแผนยุทธศาสตร์และมาตรการรองรับไว้แล้ว โดยมียุทธศาสตร์สำคัญคือ การปรับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและระบบการค้า ผ่านการใช้จุดแข็งของทั้ง 2 ประเทศ อาทิ การนำเข้าสินค้าการเกษตรของสหรัฐฯ ที่ผลิตได้มากกว่าการบริโภคภายในประเทศถึง 20% มาแปรรูปเป็นอาหาร โดยใช้ความเชี่ยวชาญในการแปรรูปอาหารของประเทศไทยเพื่อส่งออกขายไปทั่วโลก ซึ่งแนวทางดังกล่าวจะถูกดำเนินการผ่านการสร้างพันธมิตรกับมลรัฐที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจจากภาคการเกษตร ซึ่งเป็นกลุ่มที่ได้รับผลกระทบอย่างรุนแรงที่ประธานาธิบดีทรัมป์ให้ความใส่ใจเป็นพิเศษ และดำเนินการมาตรการอื่นๆ ควบคู่ไปด้วย เช่น การเร่งปราบปรามการสวมสิทธิ์สินค้าจากประเทศ อื่นๆ เพื่อส่งออกไปสหรัฐฯ ที่เกิดขึ้นในประเทศไทย ควบคู่ไปกับการเปิดการนำเข้าสินค้าเกษตร โดยเฉพาะสินค้าเกษตรที่เป็นปัจจัยการผลิตและประเทศเราผลิตไม่เพียงพอ 

 

รวมถึงสินค้ากลุ่มพลังงานเพิ่มเติม ตลอดจนการเพิ่มการลงทุนของไทยในสหรัฐฯ โดยการดำเนินการดังกล่าวทั้งหมด เป็นไปเพื่อลดภาวะขาดดุลการค้าของสหรัฐฯ และเปิดบันไดทางลงให้กับสหรัฐฯ เมื่อมาตรการขึ้นภาษีได้ส่งผลเชิงลบต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ มากกว่าที่คาดการณ์

 

ศุภวุฒิยังกล่าวถึงการช่วยเหลือผู้ประกอบการไทยที่ส่งออกไปยังสหรัฐฯ อีกว่า รัฐบาลเตรียมมาตรการเงินกู้ปลอดดอกเบี้ยเพื่อช่วยเหลือการดำเนินการของผู้ประกอบการในระยะสั้น และเตรียมเงินทุนสำหรับใช้ในการให้ผู้ประกอบการไทยหาตลาดใหม่เพื่อลดความเสี่ยงในการส่งออกไปสหรัฐฯ โดยคาดว่าจะใช้งบประมาณ 3,000 ล้านบาท โดยหวังเป็นอย่างยิ่งว่ามาตรการเหล่านี้จะช่วยผู้ประกอบการไทยให้สามารถปรับตัวได้ท่ามกลางสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป

 

ทั้งนี้ การดำเนินการเจรจากับสหรัฐฯ จะเกิดขึ้นตามขั้นตอนการเจรจา โดยขณะนี้รัฐบาลได้เตรียมการลดภาษีสินค้านำเข้าจากสหรัฐฯ ภายใต้หลักการที่สหรัฐฯ ได้ประโยชน์ และประเทศไทยได้รับผลกระทบน้อยที่สุด 

 

อย่างไรก็ตาม สำหรับกระบวนการเจรจาต่อรองดังกล่าว ต้องเจรจาในรายละเอียดในระดับเจ้าหน้าที่ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้ได้ข้อสรุปร่วมกันก่อน ยกเว้นสินค้าที่มีปัญหาที่จะต้องเป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรี ดังนั้น ขั้นตอนนี้จำเป็นต้องให้หัวหน้าส่วนราชการ ซึ่งคือปลัดกระทรวงพาณิชย์ เป็นหัวหน้าคณะทำงานเพื่อทำการเจรจา ก่อนที่จะมีการเจรจารอบสุดท้ายเพื่อแก้ไขปัญหาในส่วนค้าสินค้าที่ยังตกลงกันไม่ได้ อันเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสำหรับการเจรจาการค้าของสหรัฐอเมริกา

 

“ประเทศเล็กอย่างเราต้องหาอำนาจต่อรอง และต้องสร้างแนวร่วมที่อเมริกา ซึ่ง พันศักดิ์ วิญญรัตน์ ประธานที่ปรึกษานโยบายของนายกรัฐมนตรี ประเมินแล้วว่า ต้องไปทางนี้กับมลรัฐเกษตรของอเมริกา และเป็นการตอบสนองผลประโยชน์ของเราด้วยว่า เราต้องการจะเป็นผู้แปรรูปอาหารคุณภาพดีไปทั่วโลก ก็ใช้ทรัพยากรที่ดีที่สุดของอเมริกา ขายอะไรให้เรา เราก็จะซื้ออันนั้น ตามความต้องการของเราที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยแนวคิดนี้” ศุภวุฒิกล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising