The Super Mario Bros. Movie ทำรายได้ช่วงเปิดตัวไปกว่า 5,000 ล้านบาท ทุบสถิติสูงสุดในปี 2023 แซงหน้า Ant-Man and the Wasp: Quantumania ที่เคยทำรายได้ช่วงเปิดตัวไว้ 3,600 ล้านบาท
สำหรับภาพยนตร์ The Super Mario Bros. Movie เป็นความร่วมมือกันระหว่าง Universal Pictures, Illumination Entertainment ผู้สร้างแอนิเมชัน Minions และ Nintendo ผู้สร้างแฟรนไชส์วิดีโอเกม Super Mario Bros
ก่อนหน้าที่ภาพยนตร์จะเข้าฉาย ผู้สร้างตั้งเป้ารายได้ในการฉาย 5 วันแรกไว้ที่ 130 ล้านดอลลาร์ แต่สามารถทำลายสถิติได้ทันที แม้จะเป็นภาพยนตร์ที่ตอบโจทย์กลุ่มเด็กเป็นหลัก และมีการขายตั๋วถูกกว่าถ้าเทียบกับราคาเฉลี่ยของผู้ใหญ่
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เจมส์ คาเมรอน บอกว่า ‘Avatar: The Way of Water’ จำเป็นต้องเป็น ‘ภาพยนตร์ที่ทำรายได้สูงสุดอันดับสามหรือสี่ในประวัติศาสตร์’ จึงจะถึงจุดคุ้มทุน
- Black Panther: Wakanda Forever ขึ้นแท่นเป็นภาพยนตร์ทำเงินสูงสุดเป็นอันดับที่ 2 ของปี 2022
- สู่ความรุ่งโรจน์หรือแผ่วลง? วิเคราะห์ก้าวต่อไปที่ท้าทายของจักรวาลหนัง Marvel เฟส 4 จะยังกุมใจแฟนคลับได้หรือไม่!
จากข้อมูลของ EntTelligence บริษัทที่ติดตามการขายตั๋วระบุว่า ส่วนใหญ่ยอดการขายตั๋วของภาพยนตร์แอนิเมชันจะลดลงหลังเวลา 19.00 น. เพราะเป็นเวลาที่ครอบครัวต่างพากันกลับบ้าน แต่สวนทางกับภาพยนตร์เรื่อง The Super Mario Bros. Movie ที่ขายตั๋วชมหลังเวลา 19.00 น. ได้ถึง 26% ถือเป็นปรากฏการณ์ใหม่ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น หัวใจที่ทำให้ภาพยนตร์ The Super Mario Bros. Movie ประสบความสำเร็จคือ การดึงดูดกลุ่มเป้าหมายตั้งแต่วัยเด็ก ผู้ใหญ่ รุ่นมิลเลนเนียล และ Gen X
ถ้าเทียบกับการเปิดตัวของภาพยนตร์ Air (2023) ภาพยนตร์เรื่องราวของ Nike ผลงานการกำกับของ เบน แอฟเฟล็ก ที่มีการฉายรอบปฐมทัศน์ในโรงภาพยนตร์ทั่วโลกในวันที่ 5 เมษายน ก่อนที่จะเปิดตัวใน Prime Video ของ Amazon ก็สร้างรายได้ 14.5 ล้านดอลลาร์ และทำให้ยอดขายตั๋วชมภาพยนตร์ในช่วงนั้นสูงถึง 20 ล้านดอลลาร์
พอล เดอร์การาเบเดียน นักวิเคราะห์อาวุโสของ Comscore กล่าวว่า ความสำเร็จของภาพยนตร์ทั้ง The Super Mario Bros. Movie และ Air เกิดจากการสร้างขึ้นมาให้สามารถเข้าถึงทั้งผู้ใหญ่และเด็กที่ไม่ได้ชื่นชอบเฉพาะซูเปอร์ฮีโร่เท่านั้น
ที่สำคัญยังแสดงให้เห็นว่า ผู้คนเริ่มกลับมาใช้บริการโรงภาพยนตร์เท่ากับช่วงก่อนโควิดแล้ว และจะค่อยๆ ทำให้อุตสาหกรรมภาพยนตร์กลับมาฟื้นตัวต่อเนื่อง โดยหลักๆ มาจากการฉายภาพยนตร์ใหม่ๆ อาทิ John Wick: Chapter 4 ที่ทำรายได้ไปแล้วประมาณ 300 ล้านดอลลาร์ และ Dungeons & Dragons ทำรายได้ 62 ล้านดอลลาร์
อ้างอิง: