ภาพของ เอเดน อาซาร์ กัปตันทีมชาติเบลเยียม ที่ยืนรอ ธอร์แกน อาซาร์ น้องชายผู้กลายเป็นฮีโร่ทำประตูชัยให้ทีม​ปีศาจแดงแห่งยุโรปสยบแชมป์เก่าโปรตุเกสลงได้ในศึกฟุตบอลยูโร 2020 รอบ 16 ทีมสุดท้าย เป็นภาพที่น่ารักและสร้างความประทับใจให้แก่แฟนบอลที่ได้เห็นอย่างมาก

เพราะสีหน้าและแววตาของอาซาร์ผู้พี่บ่งบอกถึงความภูมิใจในตัวน้องชายที่คลานตามกันมาได้เป็นอย่างดี

ครอบครัว ‘อาซาร์’ นั้นเป็นครอบครัวนักฟุตบอลอย่างแท้จริง เพราะพี่น้องชายล้วน 4 คนเดินทางในเส้นทางสายนักฟุตบอลด้วยกันทั้งหมด นำมาโดย เอเดน พี่คนโต, ธอร์แกน น้องคนรอง, คีเลียน น้องคนที่ 3 และอีธาน น้องคนสุดท้อง ซึ่งการที่ทุกคนรักฟุตบอลนั้นไม่ใช่เรื่องแปลกเลย

เพราะพ่อของเขา เธียร์รี อาซาร์ ก็เป็นอดีตนักฟุตบอลระดับสมัครเล่นมาก่อน และที่เจ๋งกว่าคือคุณแม่อย่าง คารีน อาซาร์ นั้นเคยเป็นนักฟุตบอลอาชีพในระดับลีกสูงสุดของเบลเยียมให้กับสโมสรลาลูวิแยร์ในบ้านเกิดเป็นเวลาถึง 6 ปี

การพบกันของพ่อและแม่ก็เกิดขึ้นในสนามฟุตบอล โดยคารีนเปิดเผยว่า ความจริงแล้วเธียร์รีมาสนามบอลเพื่อ ‘ดูหญิง’ (แฮ่ม…) แต่อาซาร์ผู้พ่อก็ยืนยันว่า เขาไปเพื่อมองหา ‘คนที่ดีที่สุด’ เท่านั้น (ก็นับว่าแก้ตัวได้แจ๋ว)

เพราะพ่อแม่รักฟุตบอล ความรักนี้จึงถูกถ่ายทอดสดสู่ลูกๆ ทุกคน แม้ว่าทั้งคู่จะไม่ได้เป็นนักฟุตบอลอีก และหันไปเป็นครูวิชาพลศึกษาแทน ก่อนจะตัดสินใจเลิกทำงานและหันมาใช้เวลาช่วงสุดสัปดาห์ในการไปดูลูกๆ เล่นฟุตบอล เรียกว่าไม่ได้เตะเองก็ขอให้ได้ดูแลลูกและได้เชียร์เถอะ

ด้วยเหตุฉะนี้เมื่อถึงสุดสัปดาห์ คุณแม่คารีนจึงกระโดดขึ้นรถ ติดเครื่อง เท้าก็กดคันเร่งเหมือนเหยียบลูกฟุตบอลไว้เพื่อไปให้ทันดูลูกชายเล่นที่สนามให้ได้ โดยจากบ้านที่ถนน Rue du Stade หรือถนนสู่สนามฟุตบอล ในย่านเบรน-เลอ-กมต์ (Braine-le-Comte) ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนที่ติดฝรั่งเศสแค่ 30 ไมล์ คารีนจะไปดูธอร์แกนเล่นในทีมเยาวชนของล็องส์ก่อน ค่อยไปดูเอเดนลงแข่งในเกมอาชีพกับลีลล์

ประโยคด้านบนนั้นอ่านไม่ผิด เพราะธอร์แกนกับเอเดนเริ่มต้นเล่นฟุตบอลกันคนละทีม โดยพี่ใหญ่นั้นเริ่มต้นเส้นทางอาชีพกับลีลล์ และความจริงพวกเขาก็ต้องการนักเตะคนน้องด้วย แต่ว่าธอร์แกนขอเลือกเล่นให้กับล็องส์ ซึ่งสนใจในฟอร์มการเล่นของเขา หลังได้รับรายงานจากแมวมองไปส่องมาในรายการทัวร์นาเมนต์ระดับเยาวชน

อีกอย่างพ่อแม่ของพวกเขาต้องการจับทั้งสองคนแยกกันด้วย เพราะไม่อยากให้มีการเปรียบเทียบกัน เรื่องนี้ธอร์แกนเป็นคนบอกเล่าด้วยตัวเอง

แต่ทั้งสองก็ได้ย้ายมาร่วมเล่นในสโมสรเดียวกันจนได้ เมื่ออาซาร์ผู้พี่ย้ายมาอยู่กับเชลซีในปี 2012 ซึ่งเป็นการเดินทางที่ไม่คาดฝัน เพราะในระหว่างนั้นธอร์แกนเริ่มได้โอกาสลงเล่นในทีมชุดใหญ่ของล็องส์บ้างแล้ว แต่ชีวิตในสแตมฟอร์ดบริดจ์ของธอร์แกนก็ไม่ง่าย

เพราะขณะที่พี่ชายเป็นนักฟุตบอลแข้งทองไปแล้ว ความกดดันย่อมตกลงมาถึงเขาไปด้วยโดยปริยาย และหลายคนก็คิดไปแล้วว่าเชลซีคว้าตัวเขามาเพราะอยากเอาใจเอเดนผู้เป็นพี่ชาย

ในความเป็นจริงแล้ว ธอร์แกนไม่เคยหวังใช้บารมีของพี่ และเขายืนยันว่าที่ได้ย้ายมาเชลซีพร้อมกันก็เป็นเพราะสโมสรจากลอนดอนมองเห็นศักยภาพในตัวของเขาด้วยเหมือนกัน

“แน่นอนว่าการที่เอเดนย้ายมาเชลซีด้วยกันมันก็ช่วยผมได้มาก แต่มันไม่ได้แปลว่าพวกเขาจะเซ็นพี่น้องของนักเตะทุกคน เพราะน้องของ แฟรงก์ แลมพาร์ด กับ จอห์น เทอร์รี ก็ไม่เคยได้เล่นให้กับเชลซี พวกเขาคว้าตัวผมไปเพราะผมแสดงให้เห็นถึงศักยภาพ และพวกเขาก็ต้องจ่ายเงินให้ล็องส์ด้วย เพื่อให้ได้ตัวผมมาซึ่งมันก็ถูกแล้ว

“ผมไม่เคยคิดที่จะเดินตามรอยของเอเดน ผมก็เดินของผม และมันก็ค่อยๆ ดีขึ้นทีละก้าว”

ธอร์แกนเป็นอย่างที่เขาพูด เขาไม่ได้ใช้ความเป็น​ ‘น้องอาซาร์’ เพื่อกรุยทางชีวิต ในทางตรงกันข้าม ค่อยๆ สั่งสมฝีเท้าและประสบการณ์ของตัวเอง แม้ว่าจะต้องไปเริ่มในระดับรอง โดยเชลซีส่งตัวให้กับซูลเต้ วาเรเกม สโมสรในบ้านเกิด ยืมตัวใช้งาน ซึ่งสำหรับบางคนอาจจะคิดน้อยใจได้ แต่อาซาร์ผู้น้องกลับใช้โอกาสนี้ในการพิสูจน์ความสามารถของตัวเองให้เห็น

ในฤดูกาลแรกกับซูลเต้ วาเรเกม (2012/13) เขาช่วยพาทีมคว้าสิทธิ์ในการเข้ารอบคัดเลือกยูฟ่าแชมเปียนส์ลีก ก่อนที่ในฤดูกาลต่อมาจะคว้ารางวัลรองดาวซัลโวของทีมด้วยจำนวน 14 ประตู และได้รับเลือกให้เป็นผู้เล่นยอดเยี่ยมแห่งปีของสโมสรและของเบลเยียมด้วย

และความภูมิใจสูงสุดคือการที่เขาได้รับปลอกแขนกัปตันทีมของสโมสรทั้งที่อายุเพียงแค่ 20 ปีเท่านั้น แต่ว่าธอร์แกนตัดสินใจที่จะส่งปลอกแขนนี้คืนให้แก่ ดาวี เดอ โฟว์ กัปตันทีมคนเดิม ในเวลาไม่ถึง 1 วันดี

ระหว่างที่เอเดนก็โลดแล่นเป็นซูเปอร์สตาร์ของเชลซีของพรีเมียร์ลีกและของทีมชาติเบลเยียมในฐานะนักเตะที่เก่งที่สุดของประเทศ ธอร์แกนก็ค่อยๆ ไต่ระดับของตัวเองขึ้นมา โดยความสำเร็จจากซูลเต้ วาเรเกม ทำให้โบรุสเซีย มึนเชนกลัดบัค สโมสรในบุนเดสลีกา เยอรมนี สนใจที่จะดึงตัวเขาไปร่วมทีม

อาซาร์น้อยทำผลงานได้ดีวันดีคืน โดยในการเล่นให้สิงห์หนุ่ม (สมญาของกลัดบัค) ในช่วงปี 2015-2019 เขาทำได้ถึง 46 ประตู กับ 44 แอสซิสต์ และพัฒนาตัวเองขึ้นมาในฐานะนักเตะสารพัดประโยชน์ที่เล่นได้แทบทุกตำแหน่งในแดนกลาง ตั้งแต่ตัวรับ ตัวทำเกม ไปจนถึงตัวริมเส้น จนเรียกได้ว่าเป็นนักเตะที่น่าจับตามองมากที่สุดคนหนึ่งของบุนเดสลีกา และย้ายมาอยู่กับโบรุสเซีย ดอร์ทมุนด์ จนถึงปัจจุบัน

อย่างไรก็ดี ทั้งสองไม่ได้เป็นพี่น้องที่รักกันแบบโอเวอร์อะไร ในทางตรงกันข้ามตามประสาพี่น้องผู้ชาย ทั้งคู่ก็มักจะไม่ยอมกันอยู่แล้ว

“เราเป็นพี่น้องก็จริง แต่ในทีมชาติเราถือว่าเป็นคู่แข่งกัน” ธอร์แกนเล่าความหลัง “สมัยเด็กๆ ผมต้องไปเล่นเป็นประตู ส่วนเอเดนก็ยิงอัดเอาๆ เหมือนคนบ้า แต่เราก็ไม่เคยมีปัญหาอะไรใหญ่ๆ กัน”

ส่วนเอเดนกล่าวถึงน้องเมื่อครั้งได้รางวัลนักฟุตบอลยอดเยี่ยมแห่งปีของเบลเยียมเมื่อปี 2014 ว่า “ผมคิดว่ามันไม่ได้นักหรอกถ้าจะต้องถูกเปรียบเทียบอยู่ทุกวันกับพี่ชายที่ทำผลงานได้ดีในเกมฟุตบอล เขาสมควรจะได้รับคำชมเชยมากกว่าผม เพราะผมคิดว่าเขาเจออะไรที่ยากกว่า สำหรับผมทุกอย่างมันเกิดขึ้นเร็วมาก ผมได้เล่นเกมดีๆ มาตั้งแต่เริ่มเข้าวงการ ขณะที่เขาต้องพยายามต่อสู้กับคำของคนอื่นว่าเขาเป็นน้องของเอเดน แต่ตอนนี้เขาสร้างชื่อได้ด้วยตัวเองแล้ว”

ดังนั้นจึงไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรที่เราจะเห็นสายตาแห่งความภูมิใจของพี่ชายอย่างเอเดน หลังเห็นธอร์แกนตะบันประตูสุดมหัศจรรย์ ช่วยให้เบลเยียมล้มโปรตุเกสได้ (โดยที่ตัวของเอเดนก็เล่นได้อย่างสุดยอด ประคองทีมที่เสีย เควิน เดอ บรอยน์ ไปกลางทาง)

ขณะที่ชาวเบลเยียมก็ภูมิใจกับพี่น้องคู่นี้ และหวังว่าทั้งคู่จะพา Golden Generation ชุดนี้ไปสู่ความสำเร็จในระดับชาติได้เสียที

อ้างอิง:

• https://www.bundesliga.com/en/bundesliga/news/thorgan-hazard-10-things-on-the-borussia-dortmund-and-belgium-forward-3574
• https://www.goal.com/en-gb/news/how-thorgan-hazard-is-stepping-out-of-his-brothers-shadow-as/1l0odxyag7lh31th9y7ahys18g
• https://www.footballreporting.com/clubs/bayern-munich/belgium-1-0-portugal-5-talking-points-as-thorgan-hazards-strike-dumps-out-holders/