สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้สัมภาษณ์ถึงมาตรการเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ว่าได้หารือกับ อาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเรียบร้อยแล้วถึงรายละเอียดโครงการเราชนะ หลังจากนี้จะนำรายละเอียดเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันที่ 19 มกราคม 2564 ส่วนจะเยียวยาทั้งหมดหรือเฉพาะพื้นที่ควบคุมสูงสุด 28 จังหวัด ต้องรอให้อาคมสรุปรายละเอียดอีกครั้ง มั่นใจว่าจะสามารถตอบได้ทุกคำถาม
ส่วนกรณีที่สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) แสดงความคิดเห็นว่าการจ่ายเยียวยาเป็นเวลา 2 เดือนน้อยเกินไปนั้น เขากล่าวว่าต้องพิจารณาจากรายงานแนวโน้มสถานการณ์การระบาดโควิด-19 ว่ามีทิศทางที่ดีขึ้นหรือแย่ลงอย่างไรด้วย
“ต้องช่วยกันทำให้รัฐบาลทำงานเบาขึ้นด้วย ทุกครั้งที่เราเจอเรื่องเดิม แต่เราทำได้ดีกว่าเดิม ไม่ใช่ระบาดรอบที่แล้วให้ 3 เดือน รอบนี้ก็ต้อง 3 เดือนด้วย รอบนี้ก็อาจเบาลงหน่อย เพราะเราไม่ได้ล็อกทั้งหมด เราใช้โมเดลใหม่”
อย่างไรก็ตาม ทั้งหมดนี้ต้องขึ้นอยู่กับคนไทยช่วยกัน ถ้าเราไม่ช่วยกัน การแพร่ระบาดก็จะยาวนาน ดังนั้นต้องตระหนักเรื่องของสุขอนามัย ต้องใส่หน้ากาก ทิ้งระยะห่าง หมั่นล้างมือ ติดตั้งแอปพลิเคชันไทยชนะ
“ถ้าไม่ทำตามมาตรการสาธารณสุข สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ก็จะนาน ทำให้เยียวยาอย่างไรก็ไม่สิ้นสุด อย่างไรก็ตาม การกำหนดมาตรการเยียวยาไว้ 2 เดือน เพราะดูแล้วสถานการณ์การแพร่ระบาดมีแนวโน้มดีขึ้น และสามารถควบคุมได้ดีขึ้นจากมาตรการตรวจเชิงรุกและบุคลากรทางการแพทย์ที่มีคุณภาพ รวมถึงความร่วมมือของประชาชน และอีกไม่นานวัคซีนจะเริ่มทยอยเข้ามาฉีดให้กับคนไทย” สุพัฒนพงษ์กล่าว
ส่วนคำถามที่ว่าโครงการคนละครึ่งจะมีเฟส 3 หรือไม่นั้น เขากล่าวว่าต้องพิจารณาตามสถานการณ์ เพราะการแก้ปัญหาจากโรคระบาดมีความไม่แน่นอนสูง การออกมาตรการต่างๆ จึงต้องดูสถานการณ์ประกอบ ซึ่งตนติดตามดูสถานการณ์ทุกวัน และไม่ได้ตามดูเฉพาะในมุมเศรษฐกิจอย่างเดียว ต้องดูในมุมของการควบคุมการแพร่ระบาดด้วย เนื่องจากมีความเชื่อมโยงกันหมด
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์