วันนี้ (13 สิงหาคม) สุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ได้เดินทางเข้าสักการะสิ่งศักดิ์สิทธิ์ประจำทำเนียบรัฐบาล เริ่มจากท้าวมหาพรหมบนตึกไทยคู่ฟ้า ก่อนเดินลงมาสักการะศาลพระภูมิเจ้าที่ ศาลตา-ยาย เพื่อเป็นสิริมงคล จากนั้นก็ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชนโดยระบุว่า เป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ส่วนการทำงานวันนี้จะได้รับทราบว่า พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี มอบหมายให้ดูแลในเรื่องใดในฐานะรองนายกรัฐมนตรี ตนได้ศึกษางานมาเบื้องต้นบ้างแล้ว และจะมีกำหนดการเข้ากระทรวงพลังงานต่อไป
สำหรับการเตรียมรับมือในภาวะเศรษฐกิจที่จะมีการตกงานมากขึ้น สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ขอรอดูการมอบหมายก่อน และสัปดาห์หน้าคงจะได้มีการพูดคุยกันอีกครั้ง เมื่อถามถึงตอนท่ี พล.อ. ประยุทธ์ ทาบทามก่อนเข้ารับตำแหน่ง ได้มีการพูดคุยถึงกรอบการทำงานอย่างไรไว้บ้าง สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า มีการพูดคุยในภาพกว้าง ยังไม่ได้ลงรายละเอียด จึงไม่อยากพูดอะไรมาก เพราะเมื่อแบ่งงานแล้วไม่ตรงกับที่พูดวันนี้ การสื่อสารกับสื่อมวลชนก็อาจจะผิดพลาดไป
สุพัฒนพงษ์กล่าวต่อไปว่า เมื่อมาอยู่ในระบบราชการที่จะต้องปรับตัว เพราะตนอยู่กับภาคเอกชนมา ก็จะพยายามเต็มที่และทุ่มเท ขอรอเวลาสักนิดหนึ่งในการทำความรู้จักกันเสียก่อน ส่วนเหตุผลที่ตัดสินใจเข้ามารับตำแหน่งเพราะอะไรนั้น สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า เข้าใจปัญหาและเชื่ออย่างหนึ่งว่าถ้ามีโอกาสช่วยประเทศชาติได้ก็จะช่วย และเพิ่งเกษียณมาได้ 1 ปี ได้รับฟังปัญหามาพอสมควร คิดว่าเราพอจะช่วยเหลือได้ เนื่องจากช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาพิเศษ ไม่ใช่เฉพาะประเทศไทยที่เกิดปัญหา ทั่วโลกก็มีปัญหา มีความไม่แน่นอน จะทำหน้าที่อย่างดีที่สุดเพื่อแก้ปัญหาให้ประเทศ และเชื่อมั่นในตัวนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้ารัฐบาลและหัวหน้าทีมเศรษฐกิจ
เมื่อถามว่าทีมเศรษฐกิจชุดใหม่จะเป็นที่เชื่อมั่นของคนในประเทศและต่างประเทศหรือไม่ สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า ทุกคนประจักษ์เห็นแล้วว่าในช่วงการแพร่ระบาดของโควิด-19 ประเทศไทยสามารถบริหารจัดการได้เป็นอย่างดี พิสูจน์ให้เห็นแล้วว่าของเราดีกว่าประเทศอื่นอย่างไร เราเลือกเส้นทางอย่างระมัดระวัง บางประเทศที่เดินอีกแบบหนึ่งเขาก็เจอการระบาดรอบสอง ซึ่งวันนี้เราถือว่ารับศึกด้านเดียว บางประเทศเขายังต้องการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดและเศรษฐกิจถดถอย จึงถือว่าเป็นความสามารถของนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ผ่านมา
สำหรับปัจจัยการชุมนุมหรือปัจจัยทางการเมืองจะทำให้เศรษฐกิจได้รับผลกระทบอย่างไร สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า เชื่อว่าวันนี้ทุกคนต้องร่วมมือกัน และมีการให้ข้อมูลที่ถูกต้อง ซึ่งรายละเอียดยังไม่ได้ศึกษา
ส่วนความขัดแย้งและความวุ่นวายภายในพรรคการเมืองจะส่งผลกระทบต่อการทำงานหรือไม่ สุพัฒนพงษ์กล่าวว่า อันนี้ถือว่ายังไม่ได้เริ่ม ต้องไปดูกระทรวงที่ได้รับมอบหมายว่าเกี่ยวข้องในเรื่องใด ถ้าไม่ใช่เรื่องพวกนี้ ก็มีผู้ที่ได้รับมอบหมายอยู่แล้ว เราเพียงให้ความร่วมมือ
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
