หนึ่งในกลยุทธ์ของ ‘Suntory’ ยักษ์ใหญ่อุตสาหกรรมวิสกี้ของญี่ปุ่น หลังจากครบรอบ 100 ปี ก้าวต่อไปต้องการเดินหน้าขยายตลาดไปทั่วโลก รวมถึงตลาดประเทศไทยอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต โดยเฉพาะนักดื่มรุ่นใหม่ต้องการสินค้าที่พรีเมียมมากขึ้น
ล่าสุด THE STANDARD WEALTH เป็นหนึ่งในสื่อไทยเพียง 2 รายที่ได้รับเชิญเข้าร่วมงานฉลองครบรอบ 100 ปีในการบุกเบิกตลาดเครื่องดื่มวิสกี้ของ The House of Suntory ที่จัดขึ้นในประเทศสิงคโปร์
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เงินเฟ้อเป็นเหตุ Suntory หนึ่งในผู้ขายน้ำอัดลมยักษ์ใหญ่ของญี่ปุ่นจะ ‘ขึ้นราคา’ สินค้าตั้งแต่ 6-20%
- “จากนี้ไปเราต้องการเติบโตมากกว่า 2 เท่าของตลาด และเพิ่มส่วนแบ่ง 1% ในทุกๆ ปี” เป้าหมายใหญ่ของ ‘ซันโทรี่ เป๊ปซี่โค’ หลังควบรวมธุรกิจมาได้ 5 ปีแล้ว
- ผลักภาระให้ลูกค้า? Asahi ขึ้นราคา ‘เบียร์ขายปลีก’ ครั้งแรกในรอบ 14 ปี เพื่อชดเชยต้นทุนที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 1.07 หมื่นล้านบาทในปีนี้
สิ่งที่น่าสนใจภายในงานฉลอง 100 ปี ได้เล่าถึงจุดเริ่มต้นของ ‘ชินจิโระ โทริอิ’ ผู้ก่อตั้งโรงกลั่นวิสกี้ Yamazaki ในปี 1923 ซึ่งถือเป็นโรงกลั่นวิสกี้มอลต์แห่งแรกและเก่าแก่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของญี่ปุ่น ที่ผ่านมามีการพัฒนาวิสกี้ที่มาจากธรรมชาติและงานฝีมือของชาวญี่ปุ่น จนทำให้แบรนด์เป็นที่รู้จักไปทั่วโลก จากนี้แม้จะทำธุรกิจผ่านมา 100 ปีแล้ว ก็จะให้ความสำคัญมากขึ้นไปอีก
พร้อมกันนี้ยังได้เปิดตัวนิทรรศการ The Legacy Continues: 100 Years of Suntory Whisky Innovation ซึ่งเป็นการบอกเล่าเส้นทางของ Suntory ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน รวมถึงการเปิดตัวภาพยนตร์ The Nature and Spirit of Japan ชื่อ ธรรมชาติและจิตวิญญาณของญี่ปุ่น โดยมีนักแสดงชื่อดัง Keanu Reeves เข้ามาสื่อถึงเรื่องราวของวิสกี้ ที่กำกับโดย Sofia Coppola
แน่นอนว่าการเลือกผู้กำกับอย่าง Sofia Coppola ล้วนมีนัยสำคัญ เพราะเมื่อปี 1980 Roman Coppola น้องชายของ Sofia Coppola ก็เป็นผู้กำกับสร้างสารคดีเกี่ยวกับ Suntory ด้วยเช่นกัน สะท้อนให้เห็นถึงเส้นทางการเติบโตของแบรนด์ได้อย่างน่าสนใจ
ยิ่งไปกว่านั้นภายในงานยังได้จัดโซน The Bar ซึ่งรองรับแขกได้สูงสุด 30 คนต่อครั้ง เพื่อบอกเล่าถึงความเป็นเอกลักษณ์ของผลิตภัณฑ์และวัฒนธรรมของบาร์ในโตเกียวที่มีมานาน และมีการเปิดตัวเครื่องดื่มวิสกี้รุ่นลิมิเต็ดในโอกาสครบรอบ 100 ปี ออกมาประมาณ 150,000 กระป๋อง วางขายเฉพาะในญี่ปุ่นเท่านั้น ซึ่งมีราคาประมาณ 152 บาท เพื่อให้ผู้บริโภคได้เก็บเป็นที่ระลึก
Nick Ganich ผู้อำนวยการฝ่ายการตลาดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Beam Suntory ซึ่งเป็นบริษัทในเครือของ Suntory Holdings Limited ของญี่ปุ่น กล่าวว่า วิสัยทัศน์ของการทำตลาดของบริษัทคือต้องการการเติบโตด้วยความยั่งยืนและรับผิดชอบต่อสังคม ผ่านการสื่อสารด้วยกิจกรรมต่างๆ ทุกช่องทาง
ทิศทางต่อไปนั้นเราจะมุ่งให้ความสำคัญกับการคิดค้นผลิตภัณฑ์วิสกี้ใหม่ๆ เน้นกลุ่มพรีเมียมและสินค้าที่ลิมิเต็ดมากขึ้น ควบคู่กับหาโอกาสขยายตลาดในพื้นที่ใหม่ๆ ทั่วโลก ที่ผ่านมาเครื่องดื่มที่สร้างขึ้นมาต่างประสบความสำเร็จในการปลุกกระแสวิสกี้ในญี่ปุ่นมาแล้ว จึงเชื่อว่าน่าจะสามารถสร้างอิมแพ็กแบบเดียวกันในตลาดต่างประเทศได้
เช่นเดียวกับตลาดในประเทศไทยถือว่าน่าสนใจและมีโอกาสอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองหลักของนักท่องเที่ยวอย่างกรุงเทพฯ และภูเก็ต จะเห็นได้ว่าผู้บริโภครุ่นใหม่ๆ ให้ความสนใจกลุ่มเครื่องดื่มวิสกี้ที่พรีเมียมมากขึ้น ดังนั้นจากนี้จึงต้องให้ความสำคัญกับช่องทางขายด้วยการสนับสนุนพาร์ตเนอร์อย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้ เพื่อรองรับการแข่งขันที่สูงขึ้น เห็นได้จากผู้เล่นรายใหม่ที่เข้ามาในอุตสาหกรรมวิสกี้มากขึ้น โดยเฉพาะช่วงหลังโควิดคลี่คลาย ตลาดเริ่มฟื้นตัวประมาณ 40% ถือเป็นสัญญาณบวกให้กับการทำธุรกิจ ซึ่งถ้าเทียบกับปี 2021 ร้านอาหาร-เครื่องดื่มต้องปิดให้บริการ ทำให้บริษัทได้รับผลกระทบอย่างมาก
แต่ในวิกฤตยังมีโอกาส เมื่อทุกอย่างเริ่มฟื้นตัวส่งผลให้ความต้องการกลุ่มเครื่องดื่มวิสกี้เพิ่มขึ้นต่อเนื่องจนทำให้ผลิตภัณฑ์บางตัวขาดตลาด และไม่สามารถเพิ่มกำลังการผลิตได้ทันที
เพราะวิสกี้ต้องใช้เวลาบ่มนานหลายปี ทำให้ช่วงต้นปีที่ผ่านมาบริษัทได้ขยายพื้นที่โรงกลั่นวิสกี้ Yamazaki และ Hakushu ด้วยเงินลงทุน 1 หมื่นล้านเยน (77 ล้านดอลลาร์) เพื่อรองรับโอกาสในตลาดใหม่ๆ
ปัจจุบัน Suntory มีกลุ่มผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มที่หลากหลาย ประกอบด้วยวิสกี้ เบียร์ ไปจนถึงเครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ ได้แก่ กาแฟ BOSS, ชา Iyemon, น้ำดื่ม Suntory Tennensui และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ โดยมีพนักงานทั้งหมด 40,885 คน