ช่วงเวลาบ่ายของวันที่ 8 มีนาคมที่ผ่านมา เกิดเหตุพายุฤดูร้อนพัดถล่มจังหวัดสกลนคร มีบ้านเรือน ห้างสรรพสินค้า และร้านค้าได้รับความเสียหายเป็นจำนวนมาก
หลังเกิดเหตุ นายวิทยา จันทร์ฉลอง ผู้ว่าราชการจังหวัดสกลนคร พล.ต. สุขพัฒน์สณฑ์ สุขสร้อย ผู้บัญชาการมณฑลทหารบกที่ 29 ค่ายกฤษณ์สีวะรา สั่งการให้เจ้าหน้าที่พร้อมกำลังทหารออกไปให้ความช่วยเหลือประชาชน รวมทั้งยังสั่งการให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่นระดมเครื่องจักรเพื่อเร่งฟื้นฟูบ้านเรือนและอาคารที่ได้รับความเสียหาย
จากการสำรวจความเสียหายอย่างเร่งด่วนพบว่า ในตำบลพังโคน อำเภอพังโคน มี เสาไฟฟ้าหัก 10 ต้น ร้านขายเครื่องเรือน 1 แห่ง และบ้านเรือน 11 หลังได้รับความเสียหาย ส่วนตำบลคูสะคาม อำเภอวานรนิวาส บ้านเรือนเสียหาย 30 หลัง (เสียหายหนัก 3 หลัง, เสียหายเล็กน้อย 2 หลัง) ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้เสียชีวิต
ด้านกรมอุตุนิยมวิทยาได้ออกประกาศเรื่อง พายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน (มีผลกระทบถึงวันที่ 9 มีนาคม 2561) ระบุว่า
บริเวณภาคเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ตอนบน รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล ยังคงมีลักษณะของพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรง กับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ต่อไปอีก 1 วัน จึงขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง รวมถึงระวังอันตรายจากฟ้าผ่า สำหรับเกษตรกรควรระวังความเสียหายที่จะเกิดต่อผลผลิตทางการเกษตรไว้ด้วย โดยจะมีผลกระทบดังนี้
ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดชัยภูมิ, นครราชสีมา, บุรีรัมย์ และสุรินทร์
ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, เชียงราย, พะเยา, แพร่, น่าน, ลำพูน, ลำปาง, ตาก, สุโขทัย, อุตรดิตถ์, พิษณุโลก, กำแพงเพชร, พิจิตร และเพชรบูรณ์
ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์, อุทัยธานี, ชัยนาท, สุพรรณบุรี, กาญจนบุรี, ราชบุรี, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม รวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑล
ภาคตะวันออก: จังหวัดนครนายก, ปราจีนบุรี, ฉะเชิงเทรา, ชลบุรี, ระยอง, จันทบุรี และตราด
ภาคใต้: จังหวัดเพชรบุรี, ประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร และสุราษฎร์ธานี
ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนได้แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้แล้ว ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวมีพายุฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงกับมีลูกเห็บตกบางพื้นที่ต่อไปอีก 1 วัน ส่วนวันที่ 10 มีนาคม 2561 เป็นต้นไป บริเวณประเทศไทยตอนบนจะมีพายุฝนฟ้าคะนองลดลง
ส่วนภาคใต้จะมีฝนฟ้าคะนองเพิ่มขึ้นเนื่องจากลมตะวันออกที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังแรงขึ้น สำหรับคลื่นลมบริเวณอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังในระยะ 1-2 วันนี้
จึงขอให้ประชาชนติดตามประกาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาอย่างใกล้ชิด