วันนี้ (26 เมษายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย การุณ โหสกุล ส.ส. กทม. พรรคเพื่อไทย และคณะทำงาน มอบถุงยังชีพให้กับประชาชนที่หมู่บ้านปิ่นเจริญ 4 เขตดอนเมือง กรุงเทพมหานคร โดยมีการสอบถามชีวิตความเป็นอยู่ การดำรงชีพ ปัญหาตกงาน และเรื่องเงินเยียวยาสถานการณ์โควิด-19 พร้อมไลฟ์สดทางเพจ Facebook ส่วนตัว และได้พาบุตรชายกับบุตรสาวมาแนะนำการทำเพจและขายสินค้าทางออนไลน์แก่ชาวชุมชนด้วย
คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่า ผู้มีอำนาจควรคิดถึงการเปิดเมืองอย่างปลอดภัยมากกว่าต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉิน แม้ว่าโควิด-19 จะยังอยู่กับสังคมไทยและสังคมโลก แต่บริบทความมั่นคงของชาติเปลี่ยนไป ที่ปัจจุบันต้องต่อสู้กับเชื้อโรค ผู้ทำหน้าที่สู้รบคือบุคลากรทางการแพทย์ ไม่ใช่การทหารที่ต้องรบราฆ่าฟันกับศัตรู
ดังนั้นการจะต่ออายุ พ.ร.ก. ฉุกเฉินฯ หรือไม่ ต้องฟังแพทย์ ไม่ใช่หน่วยงานความมั่นคง และมุ่งสร้างสมดุลระหว่างการควบคุมโรคกับการให้ธุรกิจดำเนินการได้ พร้อมเสนอ 5 ข้อสำหรับการเปิดเมืองคือ
- Reopening แบบมีข้อบังคับด้านสาธารณสุขอย่างเคร่งครัด โดยเฉพาะในจังหวัดที่ไม่มีผู้ป่วยและไม่มีผู้ติดเชื้อเพิ่มเป็นกลุ่มแรก เมื่อเปิดเมืองต้องทำความสะอาดฆ่าเชื้อในที่สาธารณะและขนส่งสาธารณะสม่ำเสมอ
- สนับสนุนทุกจังหวัดที่จะเปิดเมืองให้มีความสามารถในการตรวจหาเชื้อและนำตัวผู้ติดเชื้อมาเข้าระบบแยกตัว รวมทั้งเอกซเรย์พื้นที่สม่ำเสมอ ไม่ให้มีการกลับมาระบาดใหม่
- ยังต้องเข้มงวดในการป้องกันผู้ติดเชื้อใหม่ไม่ให้เดินทางเข้าประเทศ ด้วยมาตรการ State Quarantine 14 วันอย่างต่อเนื่อง
- สนับสนุนงบประมาณให้โรงพยาบาลมีเครื่องมืออุปกรณ์ทางการแพทย์อย่างเพียงพอ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือหากมีการระบาดในรอบใหม่
- สำหรับประชาชนต้องปรับตัวให้เข้ากับ New Normal โดยให้ความร่วมมือในการสวมหน้ากาก, Social Distancing และรักษาสุขภาพอนามัย ขณะที่รัฐบาลต้องสนับสนุนให้ Work from Home หรือการเรียนออนไลน์อีกสักระยะ
คุณหญิงสุดารัตน์ยังยืนยันข้อเรียกร้องของพรรคเพื่อไทย ที่ต้องการให้เปิดประชุมสภาฯ ซึ่งห้องประชุมใหญ่สร้างเสร็จแล้ว สามารถใช้มาตรการ Social Distancing ได้ เพื่อจะได้นำปัญหาการเยียวยาและความเดือนร้อนของประชาชนเข้าพิจารณาร่วมกันทุกฝ่าย และพรรคเพื่อไทยกังวลใจกับเงินกู้ 1.9 ล้านล้านบาท ที่ควรนำมาพิจารณาเปรียบเทียบกับการตัดงบประมาณปี 2563-2564 ที่ไม่จำเป็นออกมาใช้ จะได้ลดจำนวนเงินที่จะกู้ได้ เพราะจัดงบฯ ในช่วงที่ไม่มีวิกฤต แต่เมื่อมีวิกฤตที่เปรียบเหมือนไฟไหม้บ้าน หัวหน้าครอบครัวมีเงินจำนวนหนึ่งสามารถที่จะซื้อรถใหม่ แต่ไฟไหม้บ้านพอดี จึงต้องจัดลำดับความสำคัญการใช้เงิน
ส่วน การุณ กล่าวว่า เข้าใจสถานการณ์ของชาวดอนเมืองท่ามกลางเคอร์ฟิว ซึ่งหลายคนตกงานและสถานประกอบการต้องปิดกิจการ จึงเกิดโครงการ ‘ดอนเมืองไม่ทิ้งกัน คนไทยรักกัน’ ซึ่งทยอยบริจาคทุกๆ ชุมชน พร้อมตั้งคำถามว่า ทำไมภาครัฐไม่ทำโครงการลักษณะนี้ทั่วประเทศทั้งที่มีอำนาจเต็ม
ด้าน พรทิพย์ เขียนนุกูล ประธานชุมชน ระบุว่า ที่ผ่านมาชาวชุมชนช่วยเหลือตัวเอง และดีใจที่มีพรรคการเมืองเข้าให้ความช่วยเหลือ เพราะยังไม่ได้รับการช่วยเหลือจากภาครัฐเลย ขณะที่ชาวชุมชนที่ลงทะเบียนรับเงินเยียวยาส่วนใหญ่ไม่เข้าหลักเกณฑ์ จำนวนมากรอทบทวนสิทธิ์และยื่นอุทธรณ์ โดยหมู่บ้านมีทั้งหมด 451 ครัวเรือน ประชากรราว 15,000 คน ส่วนใหญ่ทำอาชีพค้าขาย ทั้งเสื้อผ้า สิ่งของอุปโภคและอาหารตามที่ต่างๆ รวมถึงในตลาดนัด ขณะที่โซน 2 ของหมู่บ้านกำลังจะมีการทำตลาดนัดออนไลน์ เพื่อให้ค้าขายได้ในช่วงนี้
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า