คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภาที่ผ่านมา หลังเกิดกระแส ส.ส. พรรคเพื่อไทยไม่พอใจในการแบ่งเวลาอภิปรายว่าเรื่องนี้ไม่น่ามีปัญหาอะไร เพราะมีการแบ่งเวลากันแล้ว แต่เข้าใจว่าระหว่างการอภิปรายมีการประท้วงขึ้น ซึ่งอาจจะกินเวลา จึงทำให้เวลาเกินไปและทำให้คนถัดไปได้เวลาน้อยลง ซึ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่เชื่อว่าจะทำความเข้าใจกันได้ เพราะพรรคเพื่อไทยเองต่างอยากให้ ส.ส. ทุกคนได้อภิปราย และยืนยันว่าทุกคนมีสิทธิเท่ากัน ไม่มีใครเป็นเด็กใคร หรือไม่มีการจะให้ใครอภิปรายหรือมีสิทธิมากกว่าใคร แต่ขึ้นอยู่ที่หัวข้อมากกว่า
คุณหญิงสุดารัตน์กล่าวอีกว่า ปัญหาอยู่ที่เวลาอภิปรายที่จัดขึ้นนั้นน้อยเกินไป ซึ่งไม่ใช่เพียง ส.ส. แต่ผู้บริหารพรรคยังมีประเด็นที่ยังไม่ได้พูดครบถ้วนสมบูรณ์ เพราะครั้งนี้เป็นการอภิปรายครั้งแรกในรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 ซึ่งกำหนดไว้ชัดเจนว่าต้องกำหนดที่มางบประมาณ แต่ปรากฏว่ารัฐบาลไม่ได้ทำตามรัฐธรรมนูญ จึงเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องชอบธรรม หากรัฐบาลนี้ได้กลับมาเป็นฝ่ายค้านคงต้องถูกเล่นงานทางกฎหมาย
อีกทั้งนโยบายของรัฐบาลยังเป็นเหมือนการเขียนคำนำ เพราะเนื้อหาไม่ครบถ้วนสมบูรณ์และไม่ครอบคลุมการแก้ไขปัญหาของประชาชน ทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม ทรัพยากรมนุษย์ และการรองรับเทคโนโลยีที่กำลังเปลี่ยนแปลง ซึ่งที่ผ่านมาไม่เคยเห็นการเขียนนโยบายที่กว้างแบบนี้มาก่อน
ส่วนบทบาทของพลเอก ประยุทธ์ นั้นขอให้ประชาชนเป็นคนชี้ แต่ส่วนตัวมีสองเรื่องที่มองเห็นคือการไม่เข้าใจในระบบรัฐสภา แม้ที่ผ่านมาใช้สภา แต่เป็นสภาภายใต้ปีกของ คสช. จึงสะท้อนว่าเป็นเพียง ‘สภาตรายาง’ ที่นายกรัฐมนตรีสามารถลุกขึ้นมาชี้นำ ดุด่าว่ากล่าวได้ ซึ่งความจริงแล้วรัฐสภามีหลักเกณฑ์มีข้อบังคับที่ต้องทำตาม แต่นายกรัฐมนตรีไม่เคยทำ โดยนายกรัฐมนตรีเองก็พูดว่าต้องเรียนรู้ใหม่ ทั้งที่เป็นกฎเกณฑ์เดียวกันมาตลอด 5 ปี เพราะอาจจะเป็นการพูดกับคนที่ตัวเองตั้งขึ้นมา แต่ต่อไปถึงกล้าพูดกับประชาชน นายกรัฐมนตรีควรจะเคารพและให้เกียรติกันและกัน รวมถึงควรมีการปรับอารมณ์ด้วย
อย่างไรก็ตาม การวางตัว ส.ส ในการอภิปรายงบประมาณเชื่อว่าจะไม่มีปัญหา แต่ยอมรับว่าผิดหวังที่เวลาอภิปรายน้อยเกินไป ซึ่งประธานสภาและฝ่ายรัฐบาลควรต้องเห็นใจฝ่ายค้าน เพราะเป็นคนรับเรื่องของประชาชนมาชี้แจงกับสภา จึงควรให้เวลาอย่างเต็มที่ และแน่นอนว่าในการอภิปรายงบประมาณ พรรคเพื่อไทยจะให้โอกาสคนที่ไม่ได้พูดในครั้งที่แล้วได้อภิปราย ส่วนการมองว่าการอภิปรายที่ผ่านมาใส่ลูกเล่นเยอะเกินไปจนทำให้เนื้อหาไม่ครบถ้วนนั้น ส่วนตัวมองว่าไม่เยอะเกินไป เพราะเป็นเรื่องการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย
ขณะเดียวกัน เรื่องการถูกจับตาดาวสภาที่ไปอยู่ทางพรรคอนาคตใหม่มากกว่านั้น คุณหญิงสุดารัตน์ระบุว่าที่ผ่านมาเพื่อไทยก็เป็นดาวสภาทุกครั้ง และการทำหน้าที่ก็ต้องแบ่งกันให้ครบถ้วน เพราะฝ่ายค้านมีพรรคร่วมหลายพรรค และไม่อยากผูกขาดเพียงพรรคเดียว
คุณหญิงสุดารัตน์ยังกล่าวในช่วงท้ายว่าหลังจากนี้จะคุยกับฝ่ายกฎหมายเพื่อยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หลังพบว่าการแถลงนโยบายรัฐบาลเข้าข่ายผิดกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งจะมีการเสนอต่อที่ประชุมในวันนี้ทั้งหมด 3 ประเด็น ก่อนจะมีการแถลงข่าวในวันพรุ่งนี้
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์