พรรคเพื่อไทยเลือกวันศุกร์ก่อนสัปดาห์สุดท้ายของปี นัดอดีตรัฐมนตรี แกนนำ และว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็น ส.ส. มาประชุมโดยพร้อมเพรียงกันที่สำนักงานใหญ่ของพรรคบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่
เป็นการนัด ‘ติวเข้ม’ เพื่อเตรียมความพร้อมสำหรับฤดูเลือกตั้งที่กำลังจะมาถึง ขณะที่ไฮไลต์สำคัญของงานคือการเปิดตัว ‘ชัชชาติ สิทธิพันธุ์’ อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมที่คัมแบ็กกลับมาทำงานการเมือง ชูภาพหัวหน้าทีมมือแก้เศรษฐกิจของพรรคเพื่อไทยอย่างเต็มตัว
บรรยากาศที่พรรคเพื่อไทยวันนี้คึกคักเป็นพิเศษ การเตรียมการพื้นที่ของพรรคแปลกตาอีกครั้งตั้งแต่ทางเข้าด้านหน้าถูกประดับด้วยป้ายที่เขียนข้อความกึ่งนโยบายกึ่งสารที่เป็นวาทกรรมทางการเมือง เพิ่มเติมฉากหลังใหม่ในห้องแถลงข่าวของสื่อ เปลี่ยนห้องประชุมชั้น 7 เป็นฉากสีดำที่ดูเคร่งขรึมเพื่อให้วาระของวันนี้เป็นฉากทางการเมืองที่ทรงพลัง
สุดารัตน์-ชัชชาติ ผนึกกำลังนำสู้ศึกเลือกตั้ง
คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานยุทธศาสตร์การเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย วันนี้เลือกแต่งกายด้วยชุทสูดกางเกงสีดำและฉายแววหัวหอกอย่างชัดเจนเต็มที่ สุดารัตน์ในวันเก่าที่หมอกเงาของความอึมครึมเคยมี แต่วันนี้เหมือนหมอกจาง ควันหาย และปรากฏความแจ่มชัดขึ้นอย่างถึงที่สุดอีกครั้งในบทบาทผู้ถือธงนำเป็นแม่ทัพสู้ศึกเลือกตั้ง
หลายต่อหลายคน หลายต่อหลายแกนนำที่เคยมีข่าวคราวไม่กินเส้นลงรอย วันนี้ขนาบข้างเธอ ชักภาพ ทักทาย และมีรอยยิ้มกว่าวันวาน สุดารัตน์เดินทักทายสมาชิก ภาพการต้อนรับ เชื้อเชิญ และยกชูปรากฏในพื้นที่เพื่อไทยอย่างเป็นธรรมชาติ
หลังเพลง พรรคเพื่อไทย เวอร์ชันใหม่ที่เปิดในงานวันนี้จบลง ชัชชาติถูกเชิญขึ้นบนเวทีเป็นคิวแรก และยังเป็นการเปิดตัวเขาครั้งแรกอย่างเป็นทางการ นับเป็นครั้งแรกที่ชัชชาติขึ้นกล่าวสุนทรพจน์ในฐานะมือเศรษฐกิจของพรรค หลังหายไปเป็นผู้บริหารองค์ธุรกิจเอกชน ชัชชาติกล่าวติดตลกว่าวันนี้ยังต้องลางานมาเช่นกัน
ชัชชาติเดินถือเก้าอี้ขึ้นไปวางบนเวที เขาเริ่มต้นด้วยการบอกกับสมาชิกว่าตั้งแต่วันนี้จนถึงวันเลือกตั้ง พรรคเพื่อไทยจะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อให้คนไทยมีตัวแทนที่แท้จริงเข้าไปเป็นรัฐบาลแก้ปัญหาของประชาชนด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งและพัฒนาประเทศอย่างนักบริหารมืออาชีพ และทำให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากความล้มเหลว
ชัชชาติอธิบายภาพรวมปัญหาเศรษฐกิจด้วยตัวเลขและการเอาตัวเองไปสัมผัสปัญหาหลายครั้ง ชัชชาติบอกว่าปัญหาหนึ่งเกิดจากความไม่มั่นใจ ซึ่งมาจากเรื่องการเมืองเป็นสำคัญ
“ถามว่าทำไมคนบอกว่าเลือกตั้งแล้วเศรษฐกิจจะดี ถ้าเกิดการเลือกตั้งมันโปร่งใสและยุติธรรม ผมเชื่อว่าความมั่นใจจะกลับคืนมาทันที และเศรษฐกิจก็จะไปได้ นี่เป็นจิตวิทยาที่สำคัญ ผมว่าเราต้องผลักดันให้มีการเลือกตั้งที่โปร่งใส เป็นธรรม ได้คนดีมาบริหารประเทศต่อไป อันนี้จะสร้างความมั่นใจและเศรษฐกิจจะดีขึ้น” ชัชชาติกล่าว
ชัชชาติบอกอีกว่าไม่มีประเทศไหนที่จะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางโดยการให้ต่างชาติมาทำโรงงานในประเทศได้ ทุกอย่างต้องเกิดขึ้นจากประชาชนในประเทศ เราต้องสร้างเกษตรกร สร้าง SMEs สร้างอุตสาหกรรมในประเทศให้เข้มแข็ง ถามว่าจะมีอะไรเป็นแรงบันดาลใจทำให้เขาเข้มแข็งได้ คนจะหาความรู้ได้อย่างไร ต้องมีโอกาส ถ้าคนมีโอกาส มีความเท่าเทียมกัน คนจะพยายามทำตัวเองให้ดีขึ้นและหาความรู้เพิ่มขึ้น
ในช่วงท้าย ชัชชาติได้เฉลยถึงที่มาของการนำเก้าอี้ขึ้นมาวางบนเวทีว่า
“เจฟฟ์ เบโซส์ เขาเป็นเจ้าของบริษัท Amazon ใหญ่ที่สุดในโลก เขาดูแลลูกค้าดีมาก เวลาประชุมเขาจะมีเก้าอี้ว่างหนึ่งตัวตั้งอยู่ในห้องประชุม เขาบอกว่าเก้าอี้ที่ว่างหนึ่งตัวคือคนสำคัญที่สุด แต่ไม่อยู่ในห้องประชุม นั่นคือลูกค้าของเขา เขาบอกว่าจะทำอะไรให้คิดถึงลูกค้าก่อน และหาสิ่งที่ตอบโจทย์ลูกค้า
“ผมว่าในมิติของเราก็ไม่ต่างกัน แต่ของเราไม่ใช่ลูกค้า คนสำคัญที่สุดไม่ได้อยู่ในห้องนี้ คนสำคัญที่สุดไม่ใช่คุณหญิงสุดารัตน์ ไม่ใช่หัวหน้าพรรค แต่คือประชาชนที่ไม่ได้อยู่ในห้องนี้ ผมเอาเก้าอี้มาตั้งตรงนี้เพื่อเตือนใจว่าทำอะไรเราต้องคิดถึงคนสำคัญที่สุดที่ไม่ได้อยู่ในห้อง
“ถ้าเราเอาประชาชนเป็นหลัก เราสร้างโอกาสให้ประชาชน ทำให้เขาเข้มแข็งขึ้น ผมว่าเราจะพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้ไม่ยาก ไม่ใช่การแจกเงินนะครับ เพราะการแจกเงินเป็นแค่ระยะสั้น แต่การสร้างโอกาสเหมือนที่เราเคยทำมาแล้ว ทั้งนโยบาย 30 บาท โอทอป กองทุนหมู่บ้าน นี่คือการสร้างโอกาสที่มันจะอยู่ตลอดไป โจทย์สำคัญของเราคือจะสร้างโอกาสให้ประชาชนได้อย่างไร เราเอาประชาชนเป็นที่ตั้งอย่างไร อันนี้คือโจทย์สำคัญ”
ชัชชาติย้ำในตอนท้ายอีกว่า “ผมว่าในอนาคต แนวคิดที่น่าจะเป็นเรื่องสำคัญคือเอาประชาชนเป็นศูนย์กลาง เข้าใจประชาชนว่าเขาต้องการอะไร และจะทำให้เขามีโอกาสได้อย่างไร ซึ่งต้องมีทีมงานที่เข้มแข็ง เข้าใจปัญหา เพื่อสร้างโอกาสให้กับเขา”
สุดารัตน์ชูประสบการณ์ พร้อมแก้ปัญหาด้วยนักบริหารมืออาชีพ
ขณะที่สุดารัตน์กล่าวว่าจากประสบการณ์ที่เคยทำงานมากว่า 26 ปี รู้ว่าปัญหาของประเทศที่รออยู่ข้างหน้าท้าทายเป็นอย่างมากและสาหัสมากเพียงใด แต่ยืนยันว่าจะทำให้คนไทยมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ซึ่งพรรคเพื่อไทยมั่นใจว่าวิกฤตเศรษฐกิจทั้งหมดที่เกิดขึ้นจะสามารถแก้ไขให้สำเร็จโดยใช้เวลาไม่นาน โดยจะนำประสบการณ์และแนวคิดที่มีอยู่มาทำงานและแก้ปัญหา
สุดารัตน์ย้ำว่าในอนาคตคนไทยทุกคนจะหายจน เพราะเชื่อว่าคงไม่มีคนไทยคนไหนอยากถูกเรียกว่าคนจนและถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือที่เรียกกันจนติดปากว่าเป็นบัตรคนจนไปตลอดชีวิต วันนี้พรรคเพื่อไทยมีทีมนักบริหารที่พร้อมจะทำงานหนักกว่าเดิมเพื่อพาคนไทยออกจากความทุกข์ครั้งนี้ไปให้ได้
“พวกเรานักบริหารพรรคเพื่อไทย เราเข้าใจปัญหา เข้าใจพลวัตที่เกิดขึ้นในโลกใหม่ เราบริหารจัดการเป็น และเรามีทีมงานนักบริหารมืออาชีพครบทุกด้านอยู่เบื้องหน้าท่าน ณ ขณะนี้
“เราจึงขอให้ความมั่นใจว่าเพื่อไทยเรามองเห็นทางออกและมีวิธีบริหารจัดการเพื่อแก้วิกฤตเศรษฐกิจในครั้งนี้ แม้ปัญหาจะถูกสะสมจนยากที่จะแก้ แต่ไม่ใช่เรื่องยากสำหรับเราในการแก้”
อย่างไรก็ตาม วันนี้พรรคเพื่อไทยยังได้ประกาศ 4 สโลแกนหลักในการหาเสียงคือ
จะอยู่กับความสิ้นหวังหรือโอกาส
จะเลือกคนทำงานไม่เป็นหรือคนทำงานเป็น
จะเลือกหนี้สินหรือรายได้
จะเลือกอยู่กับความล้มเหลวหรือความสำเร็จ
เพื่อไทยจะไปต่ออย่างไร
ยุทธศาสตร์ของพรรคเพื่อไทยวันนี้เปิดเกมชูภาพ ‘นักบริหารเพื่อไทย’ มืออาชีพ ผนึกกำลัง สุดารัตน์-ชัชชาติ เป็นหัวหอกสำคัญ ภายใต้ภาพของ สุดารัตน์รู้รอบ ให้ชัชชาติที่รู้ลึกเข้ามาแก้ปัญหาในมิติเศรษฐกิจ รวมถึงทีมงานมืออาชีพอื่นๆ ที่เคยทำงานและทำสำเร็จมาแล้ว
ในสนามเลือกตั้งของพรรคเพื่อไทย สุดารัตน์และชัชชาติคือชื่อของแคนดิเดตนายกฯ อย่างแน่นอน และนับแต่นี้ต้องจับตาว่าสองผู้นำจะสามารถผนึกกำลังนำพาเพื่อไทยไปสู่เป้าหมายทางการเมืองได้มากน้อยแค่ไหน เพราะยังต้องเจอด่านหินอีกมากมาย
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์