วันนี้ (27 เมษายน) คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ หัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคไทยสร้างไทย หมายเลข 32 พร้อมด้วย สิทธิชัย โควสุรัตน์ ประธานคณะกรรมการอำนวยการเลือกตั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และผู้สมัครสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) จังหวัดอุบลราชธานี พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่จังหวัดอุบลราชธานี
โดยช่วงเช้าที่สนามบินมีประชาชนมารอต้อนรับและส่งเสียงเชียร์ “นายกฯ หน่อย” และ “คุณหญิงสุดารัตน์ นายกฯ คนอีสาน” พร้อมมอบดอกไม้ให้กำลังใจ
จากนั้นคุณหญิงสุดารัตน์ได้ขึ้นเวทีปราศรัย 3 เวที ที่อำเภอนาจะหลวย อำเภอบุณฑริก จังหวัดอุบลราชธานี ซึ่งเป็นเขตเลือกตั้งที่ 9 ของ รำพูล ตันติวณิชชานนท์ เบอร์ 10
สำหรับเวทีปราศรัยมีประชาชนมาร่วมฟังนโยบายแต่ละเวทีนับหมื่นคน
คุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นเวที ประกาศดูแลประชาชนชาวอุบลราชธานีและประชาชนชาวอีสานให้หายจน หมดหนี้ และมีรายได้ยั่งยืน ภายใน 3 ปี พร้อมยกระดับราคาสินค้าเกษตร โดยจะรับซื้อและประกันราคาพืชเศรษฐกิจหลัก เช่น ข้าว, มันสำปะหลัง, ข้าวโพด, อ้อย, ยางพารา และปาล์มน้ำมัน
โดยข้าวหอมมะลิจะต้องไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อตัน, ข้าวหอมจังหวัด 13,000 บาทต่อตัน, ข้าวเหนียว 14,000 บาทต่อตัน และข้าวสารขาว 11,000 บาทต่อตัน
ส่วนราคาพืชผลอื่น เช่น มันสำปะหลัง 3 บาทต่อกิโลกรัม, ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 8 บาทต่อกิโลกรัม, ยางพารา 60 บาทต่อกิโลกรัม, ยางก้อนถ้วย 45 บาทต่อกิโลกรัม, ปาล์มน้ำมัน 5 บาทต่อกิโลกรัม และอ้อยโรงงาน 1,000 บาทต่อตัน
และจะมีการปรับโครงสร้างการผลิต บริหารจัดการพื้นที่เพาะปลูกพืชเกษตร (Zoning) โดยปรับระบบการใช้ที่ดินเพื่อผลิตสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับอุปสงค์-อุปทาน เพื่อยกระดับราคาและเพิ่มรายได้ให้เกษตรกร
พร้อมพัฒนาแหล่งน้ำตั้งแต่ระดับหมู่บ้านไปจนถึงการกักเก็บน้ำตามลำน้ำ ซึ่งจะมีโครงการขุดบ่อน้ำ 1 ล้านบ่อ, ขุดน้ำบาดาล 1 แสนบ่อ, วางระบบผันน้ำ โขง-เลย-ชี-มูล แม่น้ำสายสำคัญอื่น และจาก สปป. ลาว มาเติม ในยามที่ขาดน้ำ รวมทั้งพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อการอุปโภค-บริโภคอย่างเพียงพอและมีคุณภาพทุกหมู่บ้าน
นอกจากนี้ยังเห็นว่า จังหวัดอุบลราชธานียังเป็นพื้นที่ที่สามารถเป็นศูนย์กลางเชื่อมการค้าระหว่างประเทศ ซึ่งจะสามารถเพิ่มมูลค่าทางการค้าได้ไม่น้อยกว่า 3 เท่า โดยจะยกระดับจังหวัดอุบลราชธานีให้เป็นเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (Northeastern Economic Corridor)
สำหรับเขตเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตรงข้ามจังหวัดอุบลราชธานี จะเป็นแขวงจำปาศักดิ์ของ สปป.ลาว ตั้งอยู่ทางตอนใต้สุดของประเทศ ติดกับอุบลราชธานีและกัมพูชา มีนครปากเซเป็นเมืองหลักของแขวง ถือเป็นศูนย์กลางการเมืองการปกครองทางเศรษฐกิจ รวมไปถึงการท่องเที่ยวของลาวตอนใต้ เป็นบริเวณที่มีความอุดมสมบูรณ์ เนื่องจากมีแม่น้ำโขงไหลผ่านกลาง
ดังนั้นอุบลราชธานีจึงเป็น Corridor ที่เชื่อม 3 ประเทศ และขึ้นเหนือไปสู่จีนได้ ซึ่งจะเป็นสะพานเชื่อมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว ได้อีกมิติหนึ่ง