ข่าวการลาออกจากทุกตำแหน่งในพรรคเพื่อไทยของ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี และประธานยุทธศาสตร์พรรค กลายเป็นจุดโฟกัสและคำถามสำคัญทางการเมืองในขั้วฝ่ายค้านว่าเกิดอะไรขึ้นภายในพรรคแกนนำฝ่ายค้าน แรงกระเพื่อมภายในที่ร้าวลึกมานาน ถึงคราวแตกหักแล้วหรือไม่?
เมื่อวานนี้มีสื่อหลายสำนักรายงานว่า คุณหญิงสุดารัตน์ขอพักใจ ถอยออกมาจากการเป็นแกนนำของพรรค สั่งให้เจ้าหน้าที่เก็บข้าวของออกจากห้องทำงานที่สำนักงานใหญ่พรรค ถนนเพชรบุรี โดยจะขอเคลื่อนไหวนอกสภาฯ และนอกประตูที่ทำการพรรค รายงานยังระบุถึงการส่งจดหมายลาออกไปถึงนายใหญ่แดนไกลแล้ว แต่ทว่า ยังไม่ปรากฏการยื่นเป็นทางการต่อพรรค
สอดรับกับกระแสความเคลื่อนไหวของคุณหญิงสุดารัตน์ ที่นับแต่เป็นแกนหลักในการลงพื้นที่หาเสียงช่วยเลือกตั้งซ่อมขอนแก่น ก็ดูจะลดบทบาทตัวเองลง เมื่อผลการเลือกตั้งปรากฏว่า เพื่อไทยเจ้าของพื้นที่เดิม พ่ายให้กับพลังประชารัฐ มิหนำซ้ำการอภิปรายไม่ไว้วางใจซักฟอกรัฐบาลก็ยังถูกเปลี่ยน ‘หัว’ ในการนำศึกนี้เป็น ร.ต.อ. เฉลิม อยู่บำรุง แทนอีกด้วย
ทำให้คำ่คืนเมื่อวานที่บ้านลาดปลาเค้า เต็มไปด้วยบรรยากาศของคนหัวใจเดียวกัน ที่ ส.ส. ฟากลูกแม่หน่อยออกมาตั้งสเตตัสกันอย่างพร้อมเพรียงว่า “เหนื่อยนัก พักหน่อย” ยิ่งโหมทวีให้คำถามถึงอนาคตของคุณหญิงสุดารัตน์กับพรรคเพื่อไทยว่าเป็นอย่างไรกันแน่
จนถึงเวลานี้ยังไม่มีคำตอบหรือปฏิกิริยาที่ชัดเจนจาก ‘เจ้าตัว คือคุณหญิงสุดารัตน์ออกมาให้ข่าวหรือชี้แจงประเด็นที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด มีเพียงคำยืนยันจากพยานแวดล้อมที่อยู่ในพรรคเพื่อไทย
เช่น วัฒนา เมืองสุข หรือเสี่ยไก่ ที่อยู่ในงานเลี้ยงที่บ้านลาดปลาเคล้า ยืนยันว่า คุณหญิงสุดารัตน์ไม่ได้ออกจากพรรคเพื่อไทยไปตั้งพรรคใหม่ โดยเชื่อว่า มีการปล่อยข่าวจากอำนาจเก่าในพรรคที่ไม่หวังดี อยากให้คุณหญิงสุดารัตน์ออกจากพรรค
ด้าน พงศกร อรรณนพพร อดีต ส.ส. หลายสมัยพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้อำนวยการการเลือกตั้งจังหวัดขอนแก่น ออกมายืนยันว่า ส.ส. อีสานไม่มีใครที่ปฏิเสธคุณหญิงสุดารัตน์ โดยเฉพาะคนที่ร่วมก่อตั้งพรรคมา ส.ส. ไม่ว่าจะเก่าหรือใหม่ รวมถึงพี่น้องประชาชนในพื้นที่ภาคอีสาน ไม่มีใครปฏิเสธคุณหญิงสุดารัตน์ และต้องการเห็นคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี การเลือกตั้งที่ผ่านมาประชาชนก็ต้องการเห็นคุณหญิงสุดารัตน์เป็นนายกรัฐมนตรี พวกที่ไม่เห็นด้วยก็ต้องถามว่า มีบทบาทสำคัญอย่างไรในพรรค หรือไม่มีบทบาทแต่ต้องการมีบทบาท และมีวัตถุประสงค์อย่างไร พวกที่พูดอาจจะไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของพรรคหรือไม่
ขณะที่ล่าสุดวันนี้ สุทิน คลังแสง หัวหอกคนสำคัญของพรรค ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน ได้ตอบคำถามสื่อมวลชนต่อเรื่องนี้ว่า ตนเองได้รับการยืนยันจากคุณหญิงสุดารัตน์แล้วว่า ยังไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง ยังคงทำหน้าที่บริหารพรรคเหมือนเดิม ขณะเดียวกัน ผู้ใหญ่ในพรรคก็ยังมีความเห็นว่า ยังไม่ต้องมีการปรับเปลี่ยนโครงสร้าง การบริหาร
“มองว่า ข่าวคุณหญิงสุดารัตน์ลาออกจากพรรคที่เกิดขึ้นเป็นไปได้ 2 ทาง ที่ขณะนี้อยู่ในช่วงของการเตรียมพร้อมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การปล่อยข่าวอาจเพื่อให้พรรคเสียขบวนเกิดความอ่อนแอ หรืออาจจะเป็นการเข้าใจผิดในการสื่อสารระหว่างกัน”
หากใครติดตามความเคลื่อนไหวของพรรคเพื่อไทยมาโดยตลอด นับแต่ก่อนการเลือกตั้งที่มีการตัดสินใจให้คุณหญิงสุดารัตน์ขึ้นกุมบังเหียน ในฐานะแม่ทัพสู้ศึก ภายใต้แคนดิเดตนายกฯ ก่อนที่หลังเลือกตั้งจะมีการปรับทัพอีกหน ตั้ง สมพงษ์ อมรวิวัฒน์ เป็นหัวหน้าพรรค ทำหน้าที่ผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ และยกชูให้คุณหญิงสุดารัตน์เป็นประธานยุทธศาสตร์ พร้อมส่ง อนุดิษฐ์ นาครทรรพ ส.ส. กทม. มือขวาแม่หน่อย ไปนั่งเป็นแม่บ้านเลขาธิการพรรค แทน ภูมิธรรม เวชยชัย กระแสรอยร้าวขัดแข้งขัดขา หรือการเดินหน้าเพื่อไทยดูจะติดๆ ขัดๆ มาโดยตลอด
ข่าวความน้อยใจหรือการที่ ส.ส. อีสาน ส.ส. ค่ายต่างๆ ไม่พึงใจต่อการทำหน้าที่ของคุณหญิงสุดารัตน์ มีปรากฏการณ์เป็นประหนึ่งคลื่นใต้น้ำมาโดยตลอด กระทั่งเริ่มหนาหูกลายเป็นจุดแตกหักขึ้นมาอีกในคราวนี้ คุณหญิงสุดารัตน์ในฐานะแม่ทัพเมืองกรุงเคยร่วมวงพรรคพลังธรรมกับทักษิณ ก่อรูปไทยรักไทย ต่อเนื่องมาจนถึงเพื่อไทย ยังไม่สามารถพิสูจน์ตนเอง หรือว่ายังติดขัดอุปสรรคใดในพรรคที่ทำขาเก้าอี้ไม่แข็งแรง
อนาคตทางการเมืองของคุณหญิงสุดารัตน์และพรรคเพื่อไทย จึงน่าจับตาเป็นพิเศษ เพราะนั่นอาจหมายถึงแรงสั่นไหวทางการเมืองที่ตามมาอีกหลายระลอก
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล