วันนี้ (26 กรกฎาคม) สุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และ พล.อ. ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งกำกับดูแลกระทรวงแรงงาน ได้แสดงความห่วงใยผ่านมายังตน
กรณีลูกจ้างบริษัท เจ เอส แอล โกลบอล มีเดีย จำกัด ได้รับความเดือดร้อนจากการถูกเลิกจ้าง โดยท่านได้กำชับให้กระทรวงแรงงานช่วยเหลือ เยียวยา และดำเนินการตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานอย่างเร่งด่วน ซึ่งกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้อนุมัติเงินช่วยเหลือจากกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้าง กรณีค่าชดเชยให้แก่ลูกจ้างในอัตรา 30-70 เท่าของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันของลูกจ้างที่พึงได้รับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 จำนวน 74 ราย รายละตั้งแต่ 9,930-23,170 บาท รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 1,310,760 บาท เพื่อเป็นการบรรเทาทุกข์ให้แก่ลูกจ้าง JSL ที่ได้รับความเดือดร้อนจากการที่นายจ้างเลิกจ้าง
โดยเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคมที่ผ่านมา ได้โอนเงินเข้าบัญชีธนาคารในชื่อบัญชีลูกจ้างแล้ว หลังจากนี้พนักงานตรวจแรงงาน สำนักงานสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานกรุงเทพมหานครพื้นที่ 4 จะได้ดำเนินการตามระเบียบกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ว่าด้วยการรับคำร้องและการพิจารณาคำร้องของพนักงานตรวจแรงงานตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 พ.ศ. 2554 ต่อไป
สุชาติกล่าวต่อไปอีกว่า นอกจากนี้ลูกจ้าง JSL ได้ลงทะเบียนแจ้งความประสงค์กับกรมพัฒนาฝีมือแรงงานจำนวน 25 คน เพื่อเข้าอบรมหลักสูตรบาริสต้ามืออาชีพ ระหว่างวันที่ 1-5 สิงหาคมนี้ ที่วิทยาลัยการแรงงาน กระทรวงแรงงาน เพื่อนำความรู้ที่ได้ไปประกอบอาชีพเป็นธุรกิจของตนเองได้
ในส่วนของกรมการจัดหางานและสำนักงานประกันสังคมมีลูกจ้างขึ้นทะเบียนผู้ว่างงานจำนวน 87 ราย ผู้ไม่ได้ขึ้นทะเบียนว่างงานจำนวน 4 ราย โดยสำนักงานประกันสังคมอนุมัติเงินสิทธิประโยชน์กรณีว่างงานแล้ว ณ วันที่ 26 กรกฎาคม 2565 จำนวน 84 ราย รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 3,773,259 บาท ปฏิเสธจำนวน 2 ราย เนื่องจากส่งเงินสมทบไม่ครบ และรออนุมัติจำนวน 1 ราย เนื่องจากอยู่ระหว่างรอเงินสมทบที่บริษัทฯ ต้องชำระ
ด้าน นิยม สองแก้ว อธิบดีกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน กล่าวเพิ่มเติมว่า กรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงานได้ดำเนินการตามกระบวนการช่วยเหลือลูกจ้าง JSL ให้ได้รับสิทธิตามกฎหมายคุ้มครองแรงงานครบถ้วน ตั้งแต่กระบวนการรับคำร้อง (คร.11) การรวบรวมพยานหลักฐาน การวินิจฉัย โดยมีคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานให้นายจ้างจ่ายค่าชดเชยค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้า ค่าจ้างสำหรับวันหยุดพักผ่อนประจำปี รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 28,097,807.50 บาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 15 ต่อปี ให้แก่ลูกจ้างนับแต่วันออกคำสั่งภายใน 30 วัน
กรณีนายจ้างไม่ปฏิบัติตามคำสั่งภายในระยะเวลาที่กำหนดและไม่นำคดีไปสู่ศาล คำสั่งถือเป็นที่สุด จะดำเนินคดีอาญาและคดีแพ่ง หรือกรณีนายจ้างฟ้องเพิกถอนคำสั่งพนักงานตรวจแรงงานภายใน 30 วันนับแต่วันที่ได้รับคำสั่งต่อศาลแรงงาน และลูกจ้างสามารถยื่นใช้สิทธิกองทุนสงเคราะห์ลูกจ้างได้อีกครั้ง กรณีเงินอื่นนอกจากค่าชดเชยในอัตราไม่เกิน 60 ของอัตราค่าจ้างขั้นต่ำรายวันของลูกจ้างที่พึงได้รับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541