ออกบูธให้ปังต้องทำให้ถึง? ทำไมงานแสดงสินค้าคว้าโอกาสได้ทุกยุค

ซัพพลายเชนปรับ พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยน ผู้ประกอบการจะสู้ต่ออย่างไร?

ภูมิทัศน์โลกธุรกิจกำลังเปลี่ยนแปลงไปอย่างรวดเร็ว ทั้งผู้ประกอบการรายย่อยและรายใหญ่ต้องปรับตัวให้พร้อมกับความท้าทายที่มาพร้อมกับโอกาส ไม่ว่าจะเป็นซัพพลายเชนที่เปลี่ยนแปลงไปจากสงครามการค้า หรือพฤติกรรมผู้บริโภคในโลกออนไลน์ที่มีกระบวนการตัดสินใจซื้อที่เปลี่ยนไปจากเดิม

ความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่นี้ผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องตามหาลูกค้าที่มีศักยภาพ เพื่อสร้างฐานลูกค้าของตัวเองในระยะยาว และปิดการขายเพื่อเพิ่มรายได้ให้กับบริษัท ทำให้การสร้างประสบการณ์ตรง (Offline Touchpoint) ทวีความสำคัญมากขึ้น ดังนั้นกลยุทธ์ของภาคธุรกิจจำเป็นที่จะต้องคิดแบบ O2O (Online to Offline) และหนึ่งในเครื่องมือที่สามารถทำให้แบรนด์เจอกับลูกค้าที่มีศักยภาพและปิดการขายได้อย่างทรงพลังก็คืองานแสดงสินค้า (Exhibition)

ความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการรายใหญ่: ภูมิรัฐศาสตร์-เศรษฐกิจโลกเปลี่ยน ห่วงโซ่อุปทานใหม่ โอกาสหรือความเสี่ยง?

ปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันผลกระทบของการค้าระหว่างมหาอำนาจมีผลกระทบอย่างมากต่อผู้ประกอบการไทยในปัจจุบัน โดยเฉพาะในยุคของประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนใหม่หน้าเดิมอย่าง โดนัลด์ ทรัมป์ ที่ทำให้ภาพของกระแส Friendshoring นั้นชัดเจนยิ่งกว่าเดิม

หมายความว่า หลังจากนี้เป็นต้นไปประเทศมหาอำนาจจะเปลี่ยนฐานการผลิต นอกเหนือจากปัจจัยทางด้านธุรกิจ จำเป็นที่จะต้องมีท่าทีที่เป็นกลางต่อทุกฝ่ายอีกด้วย อีกทั้ง Trade War อาจทำให้ซัพพลายเชนถูกขัดขวางและต้นทุนของวัตถุดิบเพิ่มขึ้น ซึ่งส่งผลต่อราคาสินค้าที่ผู้บริโภคต้องจ่าย ภาพรวมที่ไม่แน่นอนในตลาดโลกเพิ่มความเสี่ยงในการลงทุนและการตัดสินใจซื้อของผู้บริโภค

และด้วยความที่ประเทศไทยมีตำแหน่งทางภูมิศาสตร์ที่อยู่ใกล้กับตลาดหลักในเอเชีย อีกทั้งยังมีความสัมพันธ์ที่ดีกับทั้งฝ่ายตะวันตกและจีน จึงทำให้ผู้ประกอบการต่างประเทศเริ่มให้ความสนใจลงทุนในประเทศไทยมากขึ้น

จึงเป็นทั้งโอกาสสำคัญให้กับผู้ประกอบการในการที่จะมองหาพาร์ตเนอร์ใหม่ๆ การสร้างประสบการณ์ตรงจึงเป็นหนึ่งในช่องทางที่จำเป็นสำหรับสร้างความเชื่อมั่นและสื่อสารความเป็นมืออาชีพ ผ่านงานแสดงสินค้าที่ตอบโจทย์ และเปิดโอกาสไปสู่การเจรจารวมถึงพัฒนาความสัมพันธ์ในระยะยาว

ความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการรายย่อย: คอนเทนต์ล้นโลก ออนไลน์คอมมูนิตี้แข็งแรง ปิดการขายได้ไม่เท่าศักยภาพของผู้ติดตาม

มากไปกว่านั้น สำหรับผู้ประกอบการรายย่อยที่แข่งขันกันด้วยช่องทางออนไลน์ ต้องปรับตัวให้เข้ากับพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป เพื่อให้เกิดความเชื่อมโยงและการมีส่วนร่วมกับแบรนด์มากขึ้นในระยะยาว จนเกิดเป็นคอมมูนิตี้ที่แข็งแกร่ง

จากรายงานของผู้เชี่ยวชาญด้านการตลาดและดิจิทัลหลายสำนักกล่าวตรงกันว่า ผู้บริโภคในปัจจุบันค้นหาข้อมูลและรีวิวสินค้าในโลกออนไลน์ พร้อมทั้งเข้าร่วมคอมมูนิตี้ที่ให้ความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์และมองหาเนื้อหาที่สามารถโต้ตอบได้ เช่น รีวิวสินค้า วิดีโอสาธิต หรือคอนเทนต์จากอินฟลูเอ็นเซอร์ที่น่าเชื่อถือ ดังนั้นผู้ประกอบการจำเป็นที่จะต้องสร้างคอมมูนิตี้ที่ลูกค้ารู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของแบรนด์​ เพื่อสร้างชุมชนที่มีความรู้สึกเชิงบวกต่อแบรนด์

อย่างไรก็ตาม การกระตุ้นให้เกิดการซื้อซ้ำในระยะยาวยังคงเป็นหนึ่งในความท้าทายของเหล่าผู้ประกอบการ เนื่องจากผู้บริโภคในปัจจุบันมี Brand Loyalty ที่น้อยลง

การเอ็นเกจกับลูกค้าผ่านการออกบูธแสดงสินค้าจึงไม่เป็นเพียงแค่การเพิ่มโอกาสในการปิดการขาย แต่ยังเป็นการส่งมอบประสบการณ์ที่เกินความคาดหวังให้กับผู้บริโภคอีกด้วย

ออกงานแสดงสินค้า ‘ต้องทำให้ถึง’ เพื่อคว้าโอกาสในระยะสั้นและระยะยาว

สุดท้ายไม่ว่าคู่ค้าของผู้ประกอบการทั้งรายย่อยและรายใหญ่จะเป็น B2B หรือ B2C การส่งมอบประสบการณ์และความน่าเชื่อถือล้วนเป็นสิ่งที่จำเป็นในการโน้มน้าวให้ผู้มีอำนาจในการตัดสินใจกลายเป็นลูกค้าในอนาคต จึงจำเป็นที่จะต้องมีผู้เชี่ยวชาญในการจัดงานแสดงสินค้ามาเป็นที่ปรึกษาสำหรับธุรกิจของคุณ

สมาคมการแสดงสินค้า (ไทย) หรือ TEA ได้รวบรวมซัพพลายเออร์ทางด้านการจัดแสดงสินค้าที่มีความเชี่ยวชาญมากที่สุดในประเทศไทยไว้ที่งาน Thailand MICE X-Change 2025 (TMX 2025) ภายใต้แนวคิด ‘NEXHIBITION – ก้าวใหม่ที่ยั่งยืนของอุตสาหกรรมการแสดงสินค้า’ ที่จะต่อยอดการออกงานแสดงสินค้าของผู้ประกอบการให้ยั่งยืนกว่าที่เคย ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ๆ จากมืออาชีพในอุตสาหกรรมการแสดงสินค้า

สำหรับผู้ประกอบการที่สนใจลงทะเบียนล่วงหน้าได้ที่ https://evcnx.co/TMX2025WebsiteVisitor เพื่อให้ Thailand MICE X-Change 2025 แมตชิ่งโจทย์ทางธุรกิจของคุณกับ Exhibitors ที่ใช่ เพื่อสื่อสารไปยังกลุ่มเป้าหมายได้อย่างแม่นยำและเหมาะสมมากที่สุด

ตามหาที่ปรึกษาด้านงานแสดงสินค้าที่เหมาะกับธุรกิจของคุณได้ที่งาน Thailand MICE X-Change 2025 วันที่ 2-3 เมษายน 2568 ณ พารากอน ฮอลล์ ชั้น 5 ศูนย์การค้าสยามพารากอน