สินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ของไทย ถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่มีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนภาคธุรกิจและเศรษฐกิจของประเทศ ด้วยจำนวนผู้ประกอบการทั้ง SME และ MSME ที่เกินกว่า 90% อีกทั้งสินค้าไทยมีคุณภาพเป็นที่ยอมรับจากทั่วโลก และยังมีจุดเด่นของอัตลักษณ์ความเป็นไทย ฝีมืออันประณีตของคนไทย จึงเป็นแต้มต่อให้ SME และ MSME มีโอกาสเติบโตในตลาดโลก
ถ้าคุณคือหนึ่งใน SME และ MSME ที่อยู่ในอุตสาหกรรมสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ โอกาสที่คุณจะก้าวกระโดดสู่เวทีโลกมาถึงแล้ว กับงาน ‘STYLE Bangkok 2024’ งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ระดับนานาชาติ (International Trade Fair) ที่จะเกิดขึ้นวันที่ 20-24 มีนาคม 2567 ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ พร้อมเปิดให้ผู้ประกอบการที่สนใจจับจองพื้นที่จัดแสดงงานแล้วตอนนี้
และนี่คือ 3 เหตุผลที่จะทำให้คุณเข้าใจว่าทำไม ‘STYLE Bangkok 2024’ จึงเป็นเวทีที่ผู้ประกอบการสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ จะได้เฉิดฉายและสร้างโอกาสทางธุรกิจในตลาดโลก
1. ‘STYLE Bangkok’ งานแสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่นแถวหน้าของเอเชีย ที่รวม 3 งานแสดงสินค้าระดับประเทศเข้าด้วยกัน
STYLE Bangkok เกิดจากการรวมงานแสดงสินค้า 3 งาน ได้แก่ งานแสดงสินค้าของขวัญและงานแสดงสินค้าของใช้ในบ้าน Bangkok International Gift Fair and Bangkok International Houseware Fair (BIG+BIH) จัดมาแล้ว 43 ครั้ง,
งานแสดงสินค้าแฟชั่นและงานแสดงสินค้าเครื่องหนัง Bangkok International Fashion Fair and Bangkok International Leather Fair (BIFF & BIL) จัดมาแล้ว 34 ครั้ง และงานแสดงสินค้าเฟอร์นิเจอร์ Thailand International Furniture Fair (TIFF) จัดมาแล้ว 21 ครั้ง
จะเห็นว่าทุกงานแสดงล้วนแล้วแต่มีกลุ่มผู้ซื้อและตลาดรองรับมายาวนาน การจับ 3 งานแสดงสินค้าระดับประเทศมาไว้ในที่เดียวกันก็เหมือนรวมเอาความยิ่งใหญ่ของโอกาสทางธุรกิจให้ครอบคลุมทุกมิติ เรียกว่าเปิดตัวในงานนี้งานเดียวมีโอกาสขยายตลาดทางธุรกิจกว้างขึ้น
‘STYLE Bangkok’ จัดครั้งแรกเมื่อเดือนตุลาคม 2560 เพื่อเป็นเวทีเจรจาการค้าระหว่างผู้แสดงสินค้าไลฟ์สไตล์และแฟชั่น เพิ่มมูลค่าการส่งออกสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ของไทยสู่ตลาดโลก และผลักดันให้เป็นงานที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อส่งเสริมให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางการค้าสินค้าไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ที่มีเอกลักษณ์ ออกแบบดี และมีคุณภาพได้มาตรฐาน ได้รับการยอมรับในตลาดโลก อีกทั้งยังเป็นงานที่ตอบสนองกลุ่มผู้นำเข้า (Importer) ผู้ซื้อ (Buyer) ทั้งจากต่างประเทศและในประเทศ โดยผู้เข้าร่วมงาน 90% เป็นผู้ประกอบการไทย และ 10% เป็นผู้ประกอบการจากต่างประเทศ จะเห็นได้ว่างาน STYLE Bangkok เป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญของผู้ประกอบการไทยในการแสดงศักยภาพและฝีมือการผลิตสินค้าที่ประณีต มีอัตลักษณ์และความคิดสร้างสรรค์ เป็นเวทีส่งเสริม Soft Power เกี่ยวกับพลังสร้างสรรค์ในการผลิตสินค้าของคนไทยที่เป็นที่ยอมรับไปทั่วโลก
2. ผลสำเร็จงานการปิดดีลทุกปี การันตีโอกาสที่ผู้ประกอบการไทยจะได้เติบโตในตลาดโลก
การจัดงาน STYLE Bangkok 2024 (ครั้งที่ 7) กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ (DITP) กระทรวงพาณิชย์ ผนึกกำลังกับพันธมิตรใหญ่อย่างสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยอีกครั้ง หลังประสบความสำเร็จจากความร่วมมือในปีที่ผ่านมา โดยงาน STYLE Bangkok 2023 สามารถผลักดัน STYLE Bangkok ให้เป็นงานแสดงสินค้านานาชาติชั้นนำของภูมิภาคเอเชียอย่างเต็มรูปแบบ ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมาย
สามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดให้กับผู้ประกอบการด้วยการปิดดีลธุรกิจไปกว่า 1,500 ล้านบาท จากสถิติกลุ่มประเทศที่มีผู้ซื้อ (Buyer) เข้าร่วมงานมากที่สุด ได้แก่ จีน 20.4%, สิงคโปร์ 11%, ญี่ปุ่น 9.7%, เวียดนาม 5.8% และสหรัฐอเมริกา 5.2%
สำหรับในครั้งนี้ คาดการณ์จำนวนผู้ประกอบการจากนานาประเทศที่จะมาร่วมจัดแสดงในงานกว่า 400 บริษัท 1,000 บูธ คาดการณ์จำนวนผู้เข้าร่วมชมงานตลอด 5 วันมากถึง 20,000 คน
โดยคาดว่าปีนี้จะมีผู้ประกอบการเข้าร่วมแสดงสินค้าทั้งไทยและต่างชาติเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว ตัวอย่างแบรนด์ดังที่จะตบเท้าเข้าร่วมงานปีนี้ ได้แก่ rati, HUG Furniture, DEESAWAT, Leather Mine, Folio, PLINN, PAÑPURI, Royal Orchid Collection, SUPP, Moonler, Pearl, Clothear Vestiaire, Gian Ferrente, Marmoris, PERMA Medical Textiles, SC GRAND, Thaniya and MN Formula, 103PAPER SHOP, Erb ฯลฯ ทั้งนี้ คาดการณ์ว่าจะสร้างมูลค่าทางการค้าได้กว่า 1,600 ล้านบาท
3. คอนเซปต์และเทรนด์ของงานช่วยสะท้อนภาพลักษณ์ว่าคุณคือ ‘ธุรกิจสีเขียว’ ที่รักษ์โลกแบบมีสไตล์
คอนเซปต์งานปี 2024 คือ ‘Chicnature’ พ้องเสียงมาจากคำว่า Signature ที่ต้องการสร้างเอกลักษณ์ให้กับงานปี 2024 และปีต่อๆ ไปของ STYLE Bangkok ภายใต้แนวคิด Sustainability เพื่อมุ่งสู่เป้าหมาย ESG
คำว่า ‘Chic’ ยังสื่อถึงสินค้าไทยที่มีความชิค ไม่ซ้ำใคร ทั้งการออกแบบ รูปแบบ และวัสดุ จนกลายเป็นสินค้าที่สร้างกระแสในวงการไลฟ์สไตล์ แฟชั่น และงานคราฟต์ได้ ส่วนคำว่า ‘Nature’ ก็สื่อความหมายตรงตัว หมายถึงธรรมชาติที่มีความหลากหลายของไทย เกิดเป็นวัตถุดิบและวัสดุที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว สร้างสรรค์สินค้าที่หาได้เฉพาะในประเทศไทยนั่นเอง
โดยคอนเซปต์ของงานยังสอดคล้องไปกับแนวคิดหลักของ STYLE Bangkok ที่จับเมกะเทรนด์โลก Sustainability และ ESG ซึ่งย่อมาจาก Environmental (สิ่งแวดล้อม), Social (สังคม) และ Governance (ธรรมาภิบาล) ที่เป็นแนวทางในการทำธุรกิจที่ยั่งยืน โดยให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล เปลี่ยนข้อได้เปรียบจากความหลากหลายทางชีวภาพและวัฒนธรรมของไทยให้เป็นความสามารถในการแข่งขันด้วยนวัตกรรม สร้างการเติบโตและการแข่งขันในตลาดโลก เกิดการกระจายรายได้สู่ชุมชน ลดความเหลื่อมล้ำ ชุมชนเข้มแข็ง มีความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมและการพัฒนาที่ยั่งยืน
ในขณะที่ Sustainability เทรนด์ที่นักลงทุนและบริษัทด้านการลงทุนระดับโลกมองว่าหากธุรกิจไหนเปลี่ยนเป็นธุรกิจสีเขียวได้ก่อนย่อมได้เปรียบ ทั้งนี้ บริษัทที่ให้คำปรึกษาและการวิจัยหลายแห่งต่างยืนยันเป็นเสียงเดียวกันว่า ความยั่งยืนจะสามารถทำกำไรได้สูงขึ้นจากการดำเนินงาน เพราะผู้บริโภคเริ่มตระหนักเรื่องความยั่งยืนมากขึ้น และพร้อมสนับสนุนแบรนด์และธุรกิจที่ทำเรื่องนี้จริงจัง
นั่นหมายความว่า ธุรกิจที่จับจองพื้นที่ภายในงานเพื่อจัดแสดงสินค้าก็เท่ากับประกาศตัวอย่างชัดเจนว่าคุณเป็นธุรกิจที่ใส่ใจเรื่องนี้เช่นกัน
ผู้ประกอบการที่เริ่มเห็นภาพแล้วว่าการพาตัวเองไปเป็นส่วนหนึ่งของงาน STYLE Bangkok 2024 จะได้โอกาสอะไรบ้าง คงต้องรีบจับจองพื้นที่กันหน่อย เพราะผู้ประกอบการเจ้าเดิมที่เคยเข้าร่วมงานก็ย่อมอยากสานต่อโอกาสดีๆ แบบนี้เช่นกัน
สมัครเข้าร่วมจัดแสดงงานได้ที่ www.stylebangkokfairregistration.com/en/sign-in
ดูวิธีการสมัครได้ที่ www.stylebangkokfairregistration.com/en/how-to-register
STYLE Bangkok 2024 จัดที่ฮอลล์ 1-4 ชั้น G ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ วันที่ 20-24 มีนาคม 2567
Trade Day วันที่ 20-22 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-18.00 น.
Public Day วันที่ 23-24 มีนาคม 2567 เวลา 10.00-21.00 น.