- ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ทำ All Time High อีกครั้งหลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯ ออกมาแข็งแกร่ง ทั้งดัชนียอดค้าปลีกพื้นฐาน (Core Retail Sales) ที่ขยายตัว 0.7% และดัชนียอดค้าปลีก (Retail Sales) ที่ขยายตัว 0.3% ในเดือนธันวาคม พร้อมทั้งความเชื่อมั่นภาคอุตสาหกรรมรัฐฟิลาเดลเฟียก็ดีกว่าคาคที่ระดับ 17.0 จุด ขณะที่ตลาดคาดไว้ที่ 3.8 จุด อย่างไรก็ตาม วันนี้จับตาตัวเลขใบอนุญาตก่อสร้างเดือนธันวาคม ที่คาดว่าจะประกาศที่ 1.468 ล้าน ซึ่งมีแนวโน้มชะลอตัวเล็กน้อยจากเดือนพฤศจิกายนที่ระดับ 1.474 ล้าน นอกจากนี้ยังจะมีการประกาศจำนวนตำแหน่งงานเปิดใหม่ ที่ตลาดคาดไว้ที่ 7.233 ล้านตำแหน่ง และดัชนีภาคการผลิตเดือนธันวาคม ซึ่งคาดว่าจะหดตัวเล็กน้อย (-0.2%) เทียบเดือนก่อนหน้า
- หุ้นธนาคาร Morgan Stanley ปรับตัวขึ้นรับกำไรกิจการ ขยายตัวถึง 46% คิดเป็นมูลค่า 2.09 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 1.30 ดอลลาร์ต่อหุ้น จากครั้งก่อนที่ 1.36 พันล้านดอลลาร์ หรือ 0.80 ดอลลาร์ต่อหุ้น ด้านนักวิเคราะห์คาดไว้ขยายตัวจากเดิมเพียง 0.99 ดอลลาร์ต่อหุ้น ในรายงานเผยว่า ผลกำไรที่ปรับตัวได้ดีมาจากการซื้อขายและจัดจำหน่ายตราสารหนี้ ประกอบกับการบริหารจัดการด้านการลงทุนที่สามารถสร้างผลกำไรได้อย่างสูง แต่ในส่วนงานที่ปรึกษาด้านการควบรวมกิจการเป็นเพียงส่วนเดียวที่ปรับตัวลง
- Taiwan Semiconductor Manufacturing Company (TSMC) ผู้ผลิตชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์รายใหญ่ของเอเชีย ออกรายงานรายได้ไตรมาส 4 ขยายตัว 15.9% โดยเป็นรายได้ฝั่งสหรัฐฯ มากถึง 73% จากยอดขาย 10.39 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่ยอดขายขยายตัว 10.6% เทียบปีก่อน โดยรายได้ที่ขยายตัวดีมาจากความต้องการในกลุ่มสมาร์ทโฟนคุณภาพสูงที่เริ่มต้นปรับใช้กับ 5G และระบบประมวลผลขั้นสูง ซึ่งจำเป็นต้องใช้การผลิตในระดับ 7 นาโนมิเตอร์จาก TSMC
- Goldman Sachs คาด Fed อาจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในอนาคต แยน แฮตซิอุส หัวหน้าทีมนักเศรษฐศาสตร์ของ Goldman Sachs กล่าวว่า ธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) อาจใช้นโยบายอัตราดอกเบี้ยติดลบในอนาคต แม้ว่าขณะนี้ Fed ยังไม่มั่นใจเกี่ยวกับความเสี่ยงในการใช้นโยบายดังกล่าว ซึ่งแนวคิดดังกล่าวเป็นการผลักให้แบงก์พาณิชย์ปล่อยกู้มากขึ้น เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ เช่นเดียวกับนโยบายของธนาคารกลางยุโรป (ECB) อย่างไรก็ตาม กรรมการ Fed บางคนยังไม่เห็นด้วยกับการนำนโยบายดอกเบี้ยติดลบมาใช้ อาทิ โรเบิร์ต แคปแลน ประธาน Fed สาขาดัลลัสที่เชื่อว่าดอกเบี้ยติดลบไม่เหมาะสมกับสหรัฐฯ
- ตัวเลขเศรษฐกิจจีนที่สำคัญ 1. ประกาศตัวเลข GDP ไตรมาส 4 ประเทศจีน โดยนักวิเคราะห์คาดขยายตัว 6.0% เทียบปีก่อนหน้า 2. ยอดลงทุนสินทรัพย์ถาวรประจำเดือนธันวาคม คาดขยายตัว 5.2% เทียบปีก่อนหน้า ขณะที่แนวโน้มก่อนหน้ายังสามารถขยายตัวได้มากกว่า 5.0% 3. ดัชนีการผลิตภาคอุตสาหกรรมเดือนธันวาคม คาดขยายตัว 5.9% เทียบกับปีก่อนหน้า ด้านแนวโน้มส่งสัญญาณฟื้นตัวนับตั้งแต่เดือนกันยายน ขณะที่จุดต่ำสุดในปี 2019 อยู่ที่ระดับ 4.4% ในเดือนสิงหาคม
สรุปภาพรวมตลาดวานนี้
- ดัชนี Dow Jones, S&P500 และ Nasdaq ปรับตัวขึ้นและทำ New High อย่างต่อเนื่อง จากตัวเลขเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง และออกมาดีกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ รวมไปถึงผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ออกมาดี ส่งผลให้นักลงทุนกล้าเข้าซื้อหุ้นมากขึ้น สอดคล้องไปในทิศทางเดียวกันกับตลาดหุ้นยุโรปที่ปรับตัวขึ้น จากความคลี่คลายของสถานการณ์ทั่วโลก ส่งผลให้หุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคและกลุ่มค้าปลีกปรับตัวขึ้นนำตลาด หุ้นไวร์การ์ดของเยอรมนี พุ่งขึ้น 6.06% ขณะที่หุ้นเอ็นเอ็มซี เฮลธ์ ของอังกฤษ พุ่งขึ้น 7.13%
- ราคาน้ำมันดิบปรับตัวขึ้น หลังจากวุฒิสภาสหรัฐฯ อนุมติข้อตกลงการค้าสหรัฐฯ-เม็กซิโก-แคนาดา (USMCA) สร้างความผ่อนคลายให้กับตลาด โดยปัจจัยเหล่านี้จะมากระตุ้นปริมาณความต้องการใช้น้ำมันของโลก ขณะที่ด้านอุปทานลดลงจากกลุ่ม OPEC ที่ลดกำลังการผลิตไปแล้ว ด้านราคาทองคำปรับตัวลงจากเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่แข็งแกร่ง รวมไปถึงการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ ส่งผลให้นักลงทุนย้ายเม็ดเงินจากทองคำที่เป็นสิทรัพย์ปลอดภัยไปสินทรัพย์ที่เสี่ยงกว่า
สหรัฐฯ
- Dow 30 ปิดที่ 29234.7 เพิ่มขึ้น 204.48 (0.7%)
- S&P 500 ปิดที่ 3309.83 เพิ่มขึ้น 20.53 (0.62%)
- Nasdaq ปิดที่ 9329.1 เพิ่มขึ้น 70.41 (0.76%)
ยุโรป
- DAX ปิดที่ 13429.43 ลดลง -2.87 (-0.02%)
- FTSE 100 ปิดที่ 7609.81 ลดลง -32.99 (-0.43%)
- Euro Stoxx 50 ปิดที่ 3774.14 เพิ่มขึ้น 5.18 (0.14%)
- FTSE MIB ปิดที่ 23940.41 เพิ่มขึ้น 176.55 (0.74%)
เอเชีย
- Nikkei 225 ปิดที่ 23933.13 เพิ่มขึ้น 16.55 (0.07%)
- S&P/ASX 200 ปิดที่ 7041.8 เพิ่มขึ้น 47 (0.67%)
- Shanghai ปิดที่ 3074.08 ลดลง -15.96 (-0.52%)
- SZSE Component ปิดที่ 10967.44 ลดลง -4.88 (-0.04%)
- China A50 ปิดที่ 14375.81 ลดลง -79.03 (-0.55%)
- Hang Seng ปิดที่ 28883.04 เพิ่มขึ้น 109.45 (0.38%)
- Taiwan Weighted ปิดที่ 12066.93 ลดลง -24.95 (-0.21%)
- SET ปิดที่ 1595.87 เพิ่มขึ้น 14.82 (0.94%)
- KOSPI ปิดที่ 2248.05 เพิ่มขึ้น 17.07 (0.77%)
- IDX Composite ปิดที่ 6286.05 เพิ่มขึ้น 2.68 (0.04%)
- BSE Sensex ปิดที่ 41932.56 เพิ่มขึ้น 59.83 (0.14%)
- PSEi Composite ปิดที่ 7653.18 ลดลง -11.22 (-0.15%)
Commodity
- ราคาน้ำมัน Crude Oil WTI ปิดที่ 58.67 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.86 (1.49%)
- ราคาน้ำมัน Brent Oil ปิดที่ 64.81 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล เพิ่มขึ้น 0.81 (1.27%)
- ราคาทองคำปิดที่ 1551.45 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ลดลง -2.55 (-0.16%)
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- Infoquest
- Bloomberg
- Investing
- CNBC
- Reuters