หลังจากตัวเลขการว่างงานสหรัฐฯ ออกมาดีกว่าคาด แต่ตลาดหุ้น บิทคอยน์ กลับร่วงกันระนาว เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมตลาดพวกนี้มันเอาใจยากกันจริงๆ ?
จ้างงานมากกว่าที่ขาด แต่ตลาดกลับร่วง?
มีการจ้างงานเพิ่มขึ้นในเดือนมกราคมมากถึง 517,000 งาน มากกว่าที่คาดไว้มากๆ ที่ 187,000 งาน และมากกว่าเดือนธันวาคมที่มีการจ้างงานอยู่ที่ 260,000 งาน ตัวเลขทั้งหมดเหมือนจะชี้ให้เห็นว่าเศรษฐกิจดี แต่หลังจากประกาศได้แป๊บเดียว บิทคอยน์ก็ปรับราคาลดลงมาที่ 23,379 ดอลลาร์สหรัฐ
ในขณะที่ตลาดหุ้นดาวโจนส์ก็ลดลง 189 จุด หรือราวๆ 0.4%
S&P 500 ลดลง 1% และแนสแด็กลดลง 1.6%
งานเยอะ ใช้จ่ายสะดวก ข้าวของแพง
เนื่องจากการที่มีการจ้างงานมากขึ้น ตลาดแรงงานอยู่ในสภาพที่ดี จะทำให้มีเงินไหลอยู่ในระบบมากยิ่งขึ้น มีการจับจ่ายใช้สอยมากยิ่งขึ้น ซึ่งจะทำให้เกิดความต้องการ แรงซื้อในตลาดสินค้าและบริการ
ส่วนผลให้ราคาข้าวของพุ่งสูงยิ่งขึ้น และจะยิ่งเป็นตัวกระตุ้นอัตราเงินเฟ้อ (Inflation) ซึ่งเป็นแรงกดดันให้กับ Fed ในการคงการขึ้นอัตราดอกเบี้ยต่อไป
เรากำลังลงทุนสำหรับมูลค่าในอนาคต
อัตราดอกเบี้ยที่สูงถือว่าเป็นของแสลงกับหุ้นเทคโนโลยี หุ้นเติบโต หรือแม้แต่กระทั่งคริปโต เนื่องจากการที่เราซื้อหุ้นเทคโนโลยีหรือคริปโตในวันนี้ เราอาจจะไม่ได้ซื้อมูลค่าปัจจุบันของมัน แต่กำลังซื้อมูลค่าในอนาคต เรากำลังซื้อ ‘อนาคต’ ที่คริปโตจะเป็นได้
การที่อัตราดอกเบี้ยเพิ่มสูงมากขึ้น จะทำให้มูลค่าเงินในอนาคตลดลง ยกตัวอย่างเช่น ถ้าเราต้องการเงิน 110 บาทในอนาคต ดอกเบี้ย 10% วันนี้ เราจะต้องฝากเงิน 100 บาท หมายความว่า เงิน 110 บาทในอนาคต มีมูลค่าแค่ 100 บาทในวันนี้ ถ้าอัตราดอกเบี้ย 10%
แต่เราจะเห็นว่าถ้าอัตราดอกเบี้ยเพิ่มขึ้น เงิน 110 บาทในอนาคตจะเหลือมูลค่าไม่ถึง 100 บาท ซึ่งจากปรากฏการณ์แบบนี้ทำให้มูลค่าปัจจุบันของหุ้นเทคโนโลยีรวมไปถึงคริปโตลดลง
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- ผลสำรวจเผย 65% ของนักลงทุนสถาบันคาด บิทคอยน์ มีโอกาสแตะ 1 แสนดอลลาร์ ลั่นปี 2023 จะเป็นปีที่ดีของ Bitcoin
- สาวกคริปโตเฮ! ราคาบิทคอยน์ฟื้นจนชดเชยความสูญเสียทั้งหมดตั้งแต่ FTX ล่ม
- เจมี ไดมอน จาก JP Morgan ชี้ สกุลเงินดิจิทัลรวมถึง Bitcoin เป็นแชร์ลูกโซ่แบบกระจายอำนาจ