นักลงทุนเทขายหุ้นมากสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในสัปดาห์ที่ผ่านมา เพื่อใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษี หลังธนาคารกลางรายใหญ่ของโลกส่งสัญญาณว่า การต่อสู้กับเงินเฟ้อคือสิ่งสำคัญที่สุด และจะใช้นโยบายการเงินแบบเข้มงวดต่อไป ด้าน Barclays เตือนนักลงทุนควรเตรียมใจเริ่มต้นปี 2023 แบบเป็นหลุมเป็นบ่อ
ตามรายงานล่าสุดของ BofA Global Research ระบุว่า ในสัปดาห์ที่ผ่านมา (สิ้นสุดเมื่อวันพุธที่ 21 ธันวาคม) กองทุนรวมตราสารทุน (Equity Fund) ทั่วโลกมีการไหลออกมากเป็นประวัติการณ์ถึง 41,900 ล้านดอลลาร์ โดยกองทุนและหุ้นของสหรัฐฯ ก็เผชิญกับแรงเทขายสูงสุดเป็นประวัติการณ์ในรอบสัปดาห์เช่นกัน โดยพบการไหลออก 17,200 ล้านดอลลาร์ และ 27,800 ล้านดอลลาร์ ตามลำดับ
ในรายงาน BofA กล่าวว่า การขายสินทรัพย์ที่ขาดทุนแล้วเข้าซื้อใหม่ในราคาเดิมเพื่อนำส่วนที่ขาดทุนมาลดหย่อนภาษีเงินได้จากการลงทุน หรือ Tax Loss Harvesting คือเหตุผลเบื้องหลังของการเทขายครั้งนี้
นักลงทุนยังขายพันธบัตรระดับลงทุน (Investment Grade) และให้ผลตอบแทนสูงเป็นสัปดาห์ที่ 9 ติดต่อกัน อย่างไรก็ตาม ในสัปดาห์ที่ผ่านมา พันธบัตรท้องถิ่นในตลาดเกิดใหม่ดึงดูดเงินไหลเข้าสุทธิเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนเมษายน ขณะที่หุ้นในตลาดเกิดใหม่บันทึกการไหลเข้าเป็นสัปดาห์ที่ 3 เพิ่มขึ้นสุทธิ 3,200 ล้านดอลลาร์
การเทขายหุ้นในสัปดาห์ที่ผ่านมา ยังเกิดขึ้นหลังจากธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ธนาคารกลางยุโรป (ECB) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ) ต่างแสดงท่าทีว่าจะใช้นโยบายการเงินแบบตึงตัวต่อไปในปีหน้า นับเป็นการทำลายความหวังของนักลงทุนว่าโลกจะกลับเข้าสู่ยุคดอกเบี้ยต่ำ โดยเฉพาะการเคลื่อนไหวที่สร้างเซอร์ไพรส์ให้กับตลาดเมื่อวันอังคาร (20 ธันวาคม) ของ BOJ
อย่างไรก็ตาม ในปีนี้ตลาดหุ้นยังมีเงินไหลเข้าสุทธิอยู่ที่ 166,500 ล้านดอลลาร์ บ่งชี้ว่านักลงทุนยังไม่ยอมจำนนทั้งหมด แม้ปี 2023 อาจมีการย่อตัวลงอีก เมื่อเปรียบเทียบกัน กองทุนพันธบัตร (Bond Funds) พบการไหลออกถึง 257,000 ล้านดอลลาร์
กระนั้นการดีดตัวขึ้นของหุ้นสหรัฐฯ ในช่วงสิ้นปีได้หยุดชะงักลงแล้ว เนื่องจากตัวเลขเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งเกินคาดที่เปิดเผยออกมาในสัปดาห์นี้ ได้สนับสนุนมุมมองของ Fed ที่ว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะสามารถแบกรับนโยบายการเงินที่ตึงตัวต่อไปได้ โดยไม่เข้าสู่ภาวะถดถอย โดยดัชนีอ้างอิงต่างๆ ขณะนี้ก็อยู่ในแนวโน้มขาลงอย่างมั่นคง และมีผลงานแย่ที่สุดนับตั้งแต่ปี 2008
Emmanuel Cau นักยุทธศาสตร์ของ Barclays ระบุว่า ด้วยปัญหามากมายในปี 2022 ที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข นักลงทุนควรเตรียมใจสำหรับการเริ่มต้นปี 2023 ที่เป็นหลุมเป็นบ่อ (Bumpy) โดยการถกเถียงเรื่องเงินเฟ้อกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย แนวโน้มผลประกอบการของบริษัทต่างๆ การเปิดประเทศของจีน และความขัดแย้งในยูเครน มีแนวโน้มว่าจะครอบงำวาระของตลาดต่อไป
ข่าวที่เกี่ยวข้อง
- ไขคำตอบ…ทำไม หุ้นเวียดนาม ดิ่งเกือบจะหนักสุดของโลก ล้างภาพดาวรุ่งแห่งเอเชีย
- จับตา! หุ้นฮ่องกง ดีดกลับจริงหรือแค่ชั่วคราว หลังผู้นำจีนส่งสัญญาณหนุนตลาดหุ้นอีกครั้ง
- ส่อง 9 ตลาดหุ้นเอเชีย ‘อินโดนีเซีย’ แชมป์เงินไหลเข้ามากสุด และเป็นตลาดหนึ่งเดียวที่ยืนบวก
อ้างอิง: