Stella McCartney ซื้อหุ้นส่วนน้อยของแบรนด์คืนจาก LVMH อย่างเป็นทางการแล้ว โดยถึงแม้ว่าบริษัทจะถอนการลงทุนกับแบรนด์ แต่ Stella McCartney ยังมีแพลนที่จะร่วมงานกับ LVMH ในอนาคต ในฐานะ Global Ambassador ด้านความยั่งยืนของบริษัท
WWD รายงานแถลงการณ์จาก LVMH ถึงประเด็นถอนการลงทุน และคอนเฟิร์มว่า Stella McCartney ซื้อหุ้นส่วนน้อยของเธอกลับคืนไปเรียบร้อยแล้ว โดยบริษัทเผยว่า
“หลังจากที่ร่วมงานกันและได้ผลลัพธ์ที่งอกเงยเป็นเวลามากกว่า 5 ปี บทใหม่ของ Stella McCartney สะท้อนความปรารถนาที่จะเขียนเรื่องราวต่อไปด้วยตัวเองอย่างเป็นอิสระ หลังจากที่เธอได้ทำงานอย่างใกล้ชิดกับบริษัท เพื่อเสริมสร้างฐานและกำกับดูแลแบรนด์ของตัวเองให้แข็งแรง”
LVMH เผยด้วยว่า Stella McCartney จะยังคงทำงานกับบริษัทในฐานะ Global Ambassador ผู้เป็นกระบอกเสียงให้นโยบายเรื่องการสนับสนุนความยั่งยืนของ Bernard Arnault โดย LVMH ซื้อหุ้นส่วนน้อยจากแบรนด์ Stella McCartney มาในปี 2019 หลังจากที่แบรนด์อยู่ภายใต้บริษัท Kering มาเป็นเวลาถึง 17 ปี และขณะนั้น Bernard Arnault ผู้ก่อตั้ง LVMH ก็เผยด้วยว่า เขายินดีเป็นอย่างยิ่งกับการที่ได้จับมือร่วมงานกับแบรนด์ โดยเฉพาะเมื่อดีไซเนอร์คนดังยึดมั่นต่อการรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อม พร้อมให้ความสำคัญกับการรักษาความยั่งยืนด้วยการลงมือทำจริง
ภายใต้การดูแลของ LVMH นั้น Stella McCartney ได้ถือหุ้นส่วนมากในแบรนด์ของเธอ แตกต่างจากเมื่อครั้งที่ทำงานกับ Kering ที่มีข้อตกลงแบบ 50-50 โดยตลอดระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา เธอได้เป็นผู้นำในการริเริ่มโครงการเพื่อความยั่งยืนต่างๆ มากมาย รวมถึงได้ทำงานร่วมกับแบรนด์แชมเปญ Veuve Clicquot ในการคัดสรรก้านองุ่น (Grape Stems) จากการผลิตแชมเปญ มาเข้าสู่กระบวนการที่เปลี่ยนให้ก้านองุ่นเหล่านั้นกลายเป็นเครื่องประดับชั้นหรู และในงานแฟชั่นโชว์ Spring 2024 ของแบรนด์ Stella McCartney เหล่านางแบบยังได้ถือกระเป๋าที่รังสรรค์ขึ้นจากขยะเหลือใช้จากองุ่นบนรันเวย์ ซึ่ง LVMH เผยด้วยว่า แมตทีเรียลองุ่นเหล่านั้นใช้เวลาผลิตไม่ถึง 18 เดือน นับเป็นการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกได้เป็นอย่างมาก
ภาพ: Tristan Fewings / Getty Images
อ้างอิง: