มองอดีต-อ่านอนาคต-ประเมินปัจจุบัน เมื่อผู้อยู่รอดไม่ใช่คนแข็งแรง แต่คือคนปรับตัวไวที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลง
“ไม่ใช่สายพันธุ์ที่แข็งแกร่งที่สุดหรือฉลาดที่สุดที่จะอยู่รอด แต่เป็นสายพันธุ์ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีที่สุดต่างหาก” ชาร์ลส์ ดาร์วิน กล่าวคำนี้ไว้ในเรื่องของสิ่งมีชีวิต แต่ประโยคนี้ก็สามารถนำไปมองในบริบทของชีวิตและธุรกิจได้เช่นกัน
ในยุคที่เจ้าโลกายักษ์ใหญ่ไดโนเสาร์สูญพันธุ์ แต่แมลงสาบตัวจ้อยกลับยังดำรงเผ่าพันธุ์มาได้ถึงทุกวันนี้ได้ เหตุผลก็เพราะ “การปรับตัว”
🧑🏽 วัดปัจจุบัน ประเมินสถานะตัวเรา
ในหนังสือ ‘The Strategy Prism ทั้งชีวิตต้องคิดอย่างมีกลยุทธ์’ โดย ดร.ธนัย ชรินทร์สาร ที่ปรึกษาและวิทยากรด้านกลยุทธ์ ได้เน้นย้ำว่า การอยู่รอดและความสำเร็จในโลกที่ไม่แน่นอนนี้ ขึ้นอยู่กับ 2 ปัจจัย คือ ความเร็วภายใน (Vi) หมายถึง การบริหารความคล่องแคล่วขององค์กรหรือตัวเราเอง และสองคือ ความเร็วภายนอก (Ve) หมายถึง อัตราการเปลี่ยนแปลงของโลกภายนอก
โดยดร. ธนัยกล่าวว่า ถ้า Vi มากกว่า Ve คือ ชนะ อยู่รอดและประสบความสำเร็จ แต่ถ้า Vi น้อยกว่า Ve คือ ตาย เหมือนไดโนเสาร์ที่ตัวใหญ่ อุ้ยอ้าย หนีไม่ทันเมื่อภัยมา
🟡 STEEP Analysis เครื่องมืออ่านสัญญาณภายนอก
STEEP Analysis คือเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้เราเห็นภาพรวมแนวโน้มที่อาจกระทบต่อธุรกิจ และประเมินโอกาสกับความเสี่ยงได้อย่าง
🔸S – Social: ปัจจัยทางสังคม
🔸T – Technological: แนวโน้มเทคโนโลยีใหม่ ๆ
🔸E – Economic: สถานะเศรษฐกิจ
🔸E – Environmental: การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
🔸P – Political: เสถียรภาพของรัฐบาล
🕰️ มองอดีต เข้าใจเหตุและผลว่าทำไมโลกถึงเปลี่ยน
นอกจากนี้ ดร.ธนัยชี้ให้เห็นในหนังสือว่า “การรู้ว่าอะไรเปลี่ยนยังไม่พอ แต่ต้องเข้าใจว่าทำไม” เพราะความเข้าใจใน ‘เหตุและผล’ ของอดีตคือรากฐานของการวิเคราะห์กลยุทธ์ที่แท้จริง
เครื่องมือสำคัญคือ Backward Reasoning หรือ “การให้เหตุผลแบบย้อนกลับ” หมายถึงการมองกลับไปในอดีตเพื่อถอดรหัสสาเหตุของการเปลี่ยนแปลง ไม่ว่าจะเป็นเหตุการณ์ทางสังคม เศรษฐกิจ หรือเทคโนโลยี เพราะ “เหตุ” คือสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีต ส่วน “ผล” คือสิ่งที่เรากำลังเผชิญอยู่ในปัจจุบัน การเข้าใจเช่นนี้ทำให้เรามองเห็นโครงสร้างเชิงเหตุผลของโลก และรู้ว่าควรตอบสนองอย่างไรเมื่อสภาพแวดล้อมเริ่มเปลี่ยน
🔮 อ่านอนาคต เตรียมพร้อมทุกสถานการณ์
ในส่วน “4 Archetypes” หนังสือกล่าวถึงการจำแนกอนาคตตามรูปแบบของการเปลี่ยนแปลง โดยใช้แนวคิดจากมหาวิทยาลัยฮิวสตัน (University of Houston) เพื่อให้ “จินตนาการอนาคตได้รอบด้านที่สุด” ผ่านเครื่องมือ Scenario Planning ซึ่งวางกรอบการคิดอนาคตไว้ 4 รูปแบบหลัก ได้แก่
- Continuation โลกดำเนินต่อไปตามแนวโน้มเดิม เป็นเส้นฐาน (Baseline) ของการคาดการณ์
- Collapse ระบบทางเศรษฐกิจ สังคม หรือสิ่งแวดล้อมล่มสลาย ต้องมีแผนรับมือกรณีเลวร้าย
- New Equilibrium เกิดสมดุลใหม่หลังวิกฤต มีการปรับโครงสร้างให้มั่นคง
- Transformation การเปลี่ยนแปลงเชิงบวกอย่างรวดเร็วและลึกซึ้ง มักมาจากนวัตกรรมหรือจุดพลิกผัน
นอกจากนี้ ในหนังสือได้อธิบายแนวคิด “สัญญาณอ่อน” (Weak Signals) ทักษะสำคัญของนักกลยุทธ์ยุคใหม่คือการสังเกตสิ่งเล็ก ๆ เช่น พฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนไป นโยบายรัฐบาล หรือเทรนด์เทคโนโลยี อาจเป็นเบาะแสของการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ การมองเห็นและวิเคราะห์สิ่งเหล่านี้ช่วยให้คาดการณ์ความไม่แน่นอนได้
ดร.ธนัย ยังเสนอวิธีรับมือสัญญาณอ่อน: ตั้งคำถาม “จะเกิดอะไรขึ้นถ้า…” กับทุกสิ่งที่สังเกต เพื่อฝึกจินตนาการเชิงกลยุทธ์ ขยายมุมมองอนาคต และเตรียมแผนรับมือการเปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ
✨ สั่งซื้อได้แล้ววันนี้ ราคา 490.-
🛒 สั่งซื้อ 👉 คลิก ›