×

ค่ำคืนสุดท้ายของ ‘สตาร์ซอคเก้อร์’ ร้านคัมภีร์ลูกหนัง สาขาสุดท้ายของประเทศไทยที่ห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์

09.11.2021
  • LOADING...
สตาร์ซอคเก้อร์

เย็นวันที่ 9 พฤศจิกายน คือวันที่แฟนบอลหลายคนมุ่งหน้าสู่ ‘สตาร์ซอคเก้อร์’ ร้านขายของที่ระลึก นิตยสาร โปสเตอร์ ดีวีดีไฮไลต์ และเสื้อทีมฟุตบอล ที่วันนี้เข้าสู่คืนสุดท้ายก่อนที่ร้านซึ่งขายสินค้าเกี่ยวกับฟุตบอลชื่อดัง สาขาสุดท้ายแห่งนี้ ที่ห้างซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ จะปิดตัวลงในช่วงเย็นของวันที่ 10 พฤศจิกายนที่จะถึงนี้ 

 

สำหรับแฟนบอลหลายคน ในอดีตร้านแห่งนี้คือศูนย์รวมของคอลูกหนัง แฟนบอลที่ต้องการติดตามข่าวสารฟุตบอล หรือซื้อของสะสมจากทีมโปรดมาประดับห้องนอน 

 

วันนี้หลังจากที่โลกแห่งการสื่อสารเกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างต่อเนื่อง จากโลกยุคของการตามข่าวสารความเคลื่อนไหวจากหน้ากระดาษ เปลี่ยนแปลงไปสู่หน้าจอโทรศัพท์มือถือที่คุณกำลังใช้อ่านข้อความนี้อยู่ 

 

ร้านสตาร์ซอคเก้อร์แห่งนี้จึงกำลังจะกลายเป็นสัญลักษณ์สุดท้ายของยุคสมัยที่ผู้คนใช้หน้ากระดาษนิตยสารและหนังสือพิมพ์ ในการติดตามความเคลื่อนไหวของเกมลูกหนังโลก 

 

THE STANDARD ได้มีโอกาสพูดคุยกับผู้คนที่หลากหลาย ตั้งแต่ผู้จัดการร้าน จนถึงลูกค้าหลายคนที่เดินทางมาสัมผัสบรรยกาศสุดท้ายภายในร้านก่อนที่จะปิดตัวลงในวันพรุ่งนี้ 

 

เริ่มจาก ​​ปฏิพล สัมมาสัมวุฒิชัย หนึ่งในลูกค้าที่เดินทางมาสัมผัสบรรยากาศสุดท้ายในวันนี้ ได้ให้สัมภาษณ์กับเราว่า เขารู้จักสตาร์ซอคเก้อร์ตั้งแต่ช่วงปี 2010 และติดตามมาตลอดตั้งแต่มัธยมศึกษาตอนต้นจนถึงระดับปริญญาโท 

 

“หนังสือของสยามกีฬาเหมือนเป็นครูคนแรกในงานเขียนและการทำเพจ เด็กจบใหม่ 4.0 มาโดยตลอด อีกทั้งยังประทับใจและใช้บริการสตาร์ซอคเก้อร์สาขาเดียวมาโดยตลอด (ซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์) หนังสือให้ทั้งความรู้ ความสนุก และยังสร้างนิสัย รักการอ่านให้เยาวชนอีกด้วย ทั้งนี้ ส่วนตัวผมรู้สึกผูกพันกับสถานที่และหนังสือในเครือสยามกีฬามาโดยตลอด ความรู้สึกนั้นทั้งใจหาย แต่เข้าใจว่าทุกอย่างเป็นไปตามวัฏจักรของตลาด แต่จะขอจดจำสำนักพิมพ์สยามกีฬา และสตาร์ซอคเก้อร์ตลอดไปครับ” ​​ปฏิพลกล่าว 

 

ขณะที่ พิมพ์ชนก ใสสุข หรือพี่ศรี ผู้จัดการร้านที่เริ่มทำงานที่ร้านในปี 2530 ตั้งแต่วัย 18 ปี ที่สาขาพันธ์ุทิพย์ ประตูน้ำ สาขาแรก ก่อนจะมาประจำการอยู่ที่ร้านสาขาซีคอนสแควร์ ศรีนครินทร์ แห่งนี้เป็นแห่งสุดท้าย 

 

เธอได้เล่าว่าตลอดหลายปีที่ผ่านมา เธอได้พบเจอกับผู้คนที่เกี่ยวข้องกับวงการฟุตบอลมากมาย ตั้งแต่แฟนบอลที่มาซื้อโปสเตอร์ และวีซีดีไฮไลต์การแข่งขัน จนถึง ย.โย่ง-เอกชัย นพจินดา อดีตบรรณาธิการและคอลัมนิสต์หนังสือพิมพ์สยามกีฬารายวัน, สตาร์ซอคเก้อร์รายวัน และนิตยสารสตาร์ซอคเก้อร์รายสัปดาห์ ที่เธอยอมรับว่าประทับใจในความน่ารักของ ย.โย่ง ทุกครั้งที่ได้พบเจอ 

 

ระหว่างที่เธอเล่าถึงความหลังกับร้านแห่งนี้ตลอดหลายสิบปีที่ผ่านมา น้ำตาของเธอก็ไหลออกมา ก่อนที่เธอจะฝากขอบคุณลูกค้า และแฟนบอลทุกคนที่ติดตาม และใช้บริการของสตาร์ซอคเก้อร์มาโดยตลอด 

 

ปิดท้ายที่พี่โอ๋ อีกหนึ่งผู้จัดการร้านที่ย้ายมาจากสตาร์ซอคเก้อร์ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว ซึ่งหลายคนให้การยอมรับว่าเป็นสาขาที่ได้รับความนิยมมากที่สุด 

 

พี่โอ๋ที่ขอเปิดเผยชื่อเพียงเท่านี้ ได้เล่าว่าสมัยยุครุ่งเรืองของสตาร์ซอคเก้อร์ เมื่อปี 2003 ที่ ‘ราชันชุดขาว’ เรอัล มาดริด ในยุค ‘กาลาคติกอส’ มาแข่งขันในประเทศไทย เมื่อพวกเขาเปิดขายตั๋วที่ร้านสตาร์ซอคเก้อร์ สาขาเซ็นทรัล ลาดพร้าว มีผู้มาต่อคิวซื้อตั๋วกระดาษเข้าชมการแข่งขันจากหน้าร้านที่อยู่ชั้นใต้ดินของเซ็นทรัล ลาดพร้าว และแถวคิวยาวไปถึงหน้าโรงเรียนหอวัง! 

 

นอกจากนี้ เขายังได้เปิดหน้านิตยสารสตาร์ซอคเก้อร์ และเล่าถึงคอลัมน์ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ ย.โย่ง ที่จะทำหน้าที่ตอบจดหมายแฟนๆ ไม่ว่าจะเป็นการห้ามแฟนบอลระหว่างสองทีมไม่ให้ทะเลาะกัน หรือเขียนตลกขำขัน จนถึงการให้ความรู้ ย.โย่ง คือหนึ่งในนักเขียนที่มีศิลปะในการสื่อสารกับแฟนๆ ของนิตยสารได้อย่างดีเยี่ยม ก่อนที่จะเริ่มไปทำงานพากย์บอล ซึ่งเขาได้กลายเป็นต้นแบบของนักพากย์ฟุตบอลเช่นเดียวกัน 

 

จากที่เราได้สัมผัสบรรยากาศในร้านแห่งนี้เพียงไม่กี่นาที จากที่เราได้พูดคุยเราก็ได้พบเห็นเรื่องราว ความทรงจำที่เปี่ยมล้นของผู้คนทั้งจากฝั่งคนขาย และแฟนบอลที่เข้ามาซื้อสินค้า 

 

แต่สุดท้ายพี่โอ๋ก็ได้บอกกับเราว่า ทุกอย่างก็คือความเปลี่ยนแปลง เพราะหลังจากนี้สตาร์ซอคเก้อร์ก็จะไม่มีอีกแล้ว 

 

แต่สิ่งเดียวที่เราคิดว่ายังคงหลงเหลือต่อไป คือเรื่องเล่าและความทรงจำที่ทุกคนมีร่วมกันกับร้านแห่งนี้ ที่ครั้งหนึ่งของเคยเป็นศูนย์รวมของผู้คนที่ชื่นชอบในกีฬาชนิดเดียวกันที่มีชื่อว่าฟุตบอล และในวงการนิตยสารลูกหนังเมืองไทยที่ผ่านมา คงไม่มีดาวดวงไหนเด่นไปกว่าดาวที่มีชื่อว่า ‘สตาร์ซอคเก้อร์’ แห่งนี้อีกแล้ว 

 

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X