Starbucks เชนร้านกาแฟยักษ์ใหญ่ได้ออกมา ‘ปฏิเสธ’ รายงานข่าวที่ระบุว่า กำลังเจรจากับบริษัทไพรเวทอิควิตี้เพื่อขายกิจการทั้งหมดในประเทศจีน โดยยืนยันผ่านแถลงการณ์เมื่อวันอังคารที่ 24 มิถุนายนว่า “เรามีทีมงานระดับโลกในจีน และแบรนด์ที่แข็งแกร่ง” พร้อมเสริมว่า “เราเห็นศักยภาพระยะยาวที่สำคัญในตลาดนี้ และกำลังประเมินวิธีที่ดีที่สุดในการคว้าโอกาสการเติบโตในอนาคต”
แถลงการณ์ดังกล่าวมีขึ้นหลังจากที่สำนักข่าว Caixin Global ของจีนรายงานเมื่อวันจันทร์ (23 มิถุนายน) โดยอ้างแหล่งข่าวว่า Starbucks กำลังพิจารณาการขายหน่วยธุรกิจในจีน ซึ่งดึงดูดผู้ซื้อที่มีศักยภาพหลายราย เช่น Hillhouse Investment และ Trustar Capital ซึ่งเป็นบริษัทในเครือไพรเวตอิควิตี้ของ Citic Capital เจ้าของ McDonald’s China
ก่อนหน้านี้ Bloomberg ก็เคยรายงานว่า Starbucks ได้เริ่มเข้าหาบริษัทไพรเวตอิควิตี้ เพื่อพิจารณาการขายหุ้นในกิจการจีนตั้งแต่เดือนพฤษภาคม
แม้หุ้นของ Starbucks จะปรับขึ้นไม่ถึง 1% ในการซื้อขายนอกเวลาทำการที่ New York ซึ่งปิดที่ 92.34 ดอลลาร์สหรัฐ แต่ราคาหุ้นก็ลดลงเกือบ 20% จากจุดสูงสุดเมื่อเดือนมีนาคม
ริชาร์ด ลิน หัวหน้านักวิเคราะห์ผู้บริโภคจาก SPDB International กล่าวว่า “การแยกธุรกิจออกไปอาจเป็นผลมาจากความต้องการด้านการบริหารจัดการในระดับองค์กร” โดยโครงสร้างดังกล่าวจะช่วยลดแรงกดดันทางการเงินของบริษัทแม่ระดับโลก ขณะเดียวกันก็ช่วยเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินงานในระดับภูมิภาค
Starbucks ซึ่งเคยเป็นผู้จำหน่ายกาแฟรายใหญ่ที่สุดในจีน และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภคในฐานะแบรนด์พรีเมียม แต่กำลัง ‘เสียส่วนแบ่งตลาด’ อย่างรวดเร็วให้กับคู่แข่งในประเทศที่ขึ้นชื่อเรื่องโมเดลธุรกิจที่มีประสิทธิภาพและเมนูราคาเข้าถึงง่าย
Luckin Coffee ซึ่งมีฐานอยู่ในปักกิ่ง ได้แซงหน้า Starbucks ในด้านยอดขายประจำปีในจีนเป็นครั้งแรกในปี 2023 ขณะที่ Cotti Coffee ซึ่งจุดชนวน ‘สงครามราคา’ ทั่วทั้งอุตสาหกรรมด้วยเครื่องดื่มราคา 9.9 หยวน ก็ได้แซงหน้าเชนร้านกาแฟสหรัฐฯ ในด้านส่วนแบ่งตลาดเมื่อปีที่แล้ว
ข้อมูลจาก Caixin ระบุว่า Luckin, Cotti และ Starbucks มีส่วนแบ่งตลาดในจีนแผ่นดินใหญ่ในปี 2024 ที่ 11%, 4.4% และ 4.2% ตามลำดับ
ยอดขายในร้านสาขาเดิมของ Starbucks ในจีนช่วงไตรมาส 2 ทรงตัวเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า หลังจากที่ลดลงติดต่อกัน 4 ไตรมาส รายได้สุทธิเพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบเป็นรายปี อยู่ที่ 739.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 8% ของรายได้ทั่วโลกทั้งหมด
และจากการรายงานทางการเงินล่าสุด จำนวนสาขาของ Starbucks ในจีนเพิ่มขึ้น 9% เป็น 7,758 แห่ง ขณะที่ Luckin ซึ่งใช้โมเดลการขยายสาขาแบบแฟรนไชส์ มีร้านค้าทั่วจีนถึง 22,289 แห่ง ณ เดือนธันวาคม 2024
นับตั้งแต่ ไบรอัน นิคคอล ซีอีโอคนปัจจุบันเข้ารับตำแหน่งเมื่อเดือนกันยายน Starbucks ได้นำเสนอการเปลี่ยนแปลงหลายชุดที่มุ่งเป้าไปที่การดึงดูดผู้บริโภคกลับมา ในเดือนนี้บริษัทประกาศลดราคาเครื่องดื่มครั้งแรกในจีน โดยลดราคาเครื่องดื่มเย็น เช่น Frappuccinos และ chai lattes ลงเฉลี่ย 5 หยวน
นอกจากนี้ บริษัทยังได้แต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายการเติบโตคนแรกในประเทศเมื่อเดือนพฤศจิกายน เพื่อร่วมมือกับแบรนด์และคนดัง โดยมีเป้าหมายในการเชื่อมโยงกับผู้บริโภครุ่นใหม่
ภาพ: Sandra Foyt / Shutterstock
อ้างอิง:
- https://www.scmp.com/business/companies/article/3315611/starbucks-denies-it-considering-full-sale-its-china-operations
- https://economictimes.indiatimes.com/news/international/business/starbucks-says-it-is-not-currently-considering-a-full-sale-of-its-china-operations/articleshow/122038538.cms
- https://www.reuters.com/business/retail-consumer/starbucks-says-it-is-not-currently-considering-full-sale-its-china-operations-2025-06-24/