ร้าน Starbucks ในฮ่องกงกลายเป็นแบรนด์ล่าสุดที่ตกเป็นเป้าการบอยคอตและต่อต้านของผู้ประท้วง หลังสมาชิกครอบครัวบริษัทที่เป็นเจ้าของธุรกิจเชนร้านกาแฟชื่อดังในฮ่องกงได้ออกมากล่าวประณามการประท้วงต่อสาธารณะ รวมทั้งแสดงจุดยืนสนับสนุนรัฐบาลจีนที่มีท่าทีแข็งกร้าวต่อนักเคลื่อนไหวที่เรียกร้องประชาธิปไตย
ร้าน Starbucks หลายสาขาในฮ่องกง รวมถึงสาขาหว่านไจ๋ ถูกผู้ประท้วงพ่นสีแนวกราฟฟิตี้ด้วยข้อความว่า ‘บอยคอต’ และถ้อยคำดูหมิ่นตำรวจ รวมถึงบริษัท Maxim’s Caterers ที่เป็นผู้ดำเนินกิจการ Starbucks ในฮ่องกง หลัง แอนนี วู บุตรสาวเศรษฐีผู้ก่อตั้ง Maxim’s Caterers ได้ออกมาแสดงจุดยืนต่อต้านการประท้วงในที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติในนครเจนีวา รวมทั้งกล่าวสนับสนุนนโยบายของจีนแผ่นดินใหญ่อย่างเปิดเผย
กระแสต่อต้าน Starbucks และร้านอาหารของ Maxim’s Caterers มีทั้งการออกแคมเปญแบนผลิตภัณฑ์เครื่องดื่มและอาหาร ไปจนถึงการบุกทำลายข้าวของและทรัพย์สินภายในร้าน ซึ่งสร้างแรงกดดันและความกังวลต่อแบรนด์ต่างชาติในการแสดงท่าทีเกี่ยวกับการประท้วงในฮ่องกง
นักวิเคราะห์ในต่างประเทศมองว่ารัฐบาลจีนพยายามกดดันให้ภาคธุรกิจออกมาประณามเหตุการณ์ประท้วงต่อสาธารณะ ซึ่งถูกผู้ประท้วงประณามกลับว่าเป็นตัวอย่างของกลุ่มคนร่ำรวยที่ตกอยู่ใต้อิทธิพลของจีน
ทั้งนี้หนึ่งในผู้ที่เรียกร้องให้บอยคอต Starbucks คือ โจชัว หว่อง แกนนำปฏิวัติร่ม โดยล่าสุดมีผู้เข้าชื่อกว่า 50,000 คนที่ขอให้บริษัท Starbucks ในสหรัฐฯ ตัดสัมพันธ์ทางธุรกิจกับ Maxim’s
“เราเรียกร้องให้บอร์ดบริหารของ Starbucks ใคร่ครวญว่า Maxim’s เป็นตัวแทนค่านิยมทางสังคมของ Starbucks จริงหรือไม่ และยกเลิกสัญญากับ Maxim’s ทันที” หว่องทวีตข้อความในทวิตเตอร์
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง: