ธนาคาร Standard Chartered ออกรายงานคาดการณ์แนวโน้มทิศทางของคริปโตเคอร์เรนซีอย่าง บิทคอยน์ (Bitcoin) โดยได้ปรับเพิ่มการคาดการณ์จากครั้งก่อนว่า ราคาของบิทคอยน์มีสิทธิ์ขยับขึ้นแตะระดับ 120,000 ดอลลาร์ ภายในสิ้นปี 2024 ซึ่งถือเป็นราคาที่เพิ่มขึ้นเกือบ 4 เท่าของราคาปัจจุบัน โดยมีสาเหตุสืบเนื่องจากมีเหล่านักขุดมากขึ้นเรื่อยๆ ที่ลดการขายโทเคนของตนเองลง
Geoff Kendrick นักวิเคราะห์จาก Standard Chartered อธิบายว่า ความสามารถในการทำกำไรของนักขุดที่เพิ่มขึ้นต่อการขุด BTC หมายความว่าพวกเขาจะสามารถขายได้น้อยลงในขณะที่ต้องรักษากระแสเงินสดไหลเข้า ลดการจัดหา BTC สุทธิและผลักดันราคา BTC ให้สูงขึ้น
ทั้งนี้ การขุดบิทคอยน์เป็นกระบวนการที่ใช้พลังงานอย่างมาก โดยปัจจุบัน เหล่านักขุดใช้คอมพิวเตอร์ที่ทรงพลังเพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลธุรกรรมบนบล็อกเชนบิทคอยน์ ช่วยให้บรรดาเครือข่ายทำงานต่อไปและรับโทเคนเป็นรางวัล ที่นำไปต่อยอดทำกำไรจากการขาย
เมื่อราคาบิทคอยน์สูงขึ้น นักขุดสามารถครอบคลุมค่าใช้จ่ายในการขุด ด้วยการขายบิทคอยน์ออกไปจำนวนหนึ่ง และหันไปสะสมถือครองบิทคอยน์มากขึ้น โดยคาดหวังว่าราคาจะสูงขึ้นในอนาคต
ในส่วนของปีนี้ ทาง Standard Chartered ยังประเมินว่าราคาบิทคอยน์ในปี 2023 มีโอกาสขยับตัวแตะ 50,000 ดอลลาร์
ทั้งนี้ การคาดการณ์ราคาบิทคอยน์โดยระบุตัวเลขมูลค่าที่ชัดเจนไม่ใช่เรื่องใหม่ โดยตัวท็อปที่มั่นใจว่าบิทคอยน์จะฟื้นกลับเข้าสู่ตลาดกระทิงอีกครั้งก็คือ Cathie Wood จาก ARK Investment Management ซึ่ง Wood คาดการณ์ว่าบิทคอยน์จะแตะ 1 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2030 ในเดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา
ด้านนักวิเคราะห์ส่วนหนึ่งมองว่าบิทคอยน์กำลังจะเผชิญกับการ Halving ที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2024 ทำให้เกิดขึ้นแรงกดดันด้านอุปทาน โดยการ Halving เป็นการตั้งโปรแกรมไว้ล่วงหน้าเพื่อลดการจัดหารางวัล ช่วยลดจำนวนบิทคอยน์ที่ให้เป็นรางวัลสำหรับนักขุดจากประมาณ 900 เหรียญต่อวันเป็นประมาณ 450 เหรียญต่อวัน ซึ่งการ Halving จะเกิดขึ้นทุกๆ 4 ปี เพื่อทำให้ปริมาณบิทคอยน์ต่ำกว่าขีดจำกัดที่กำหนดที่ 21 ล้านโทเคน
อ้างอิง: