วันนี้ (14 พฤศจิกายน) วีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม สั่งการให้การรถไฟฯ เร่งยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณทางแยกเขากระโดง ตำบลอิสาณ และตำบลเสม็ด และอำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ไปยังอธิบดีกรมที่ดิน
การรถไฟฯ จึงเร่งดำเนินการตามข้อสั่งการของสุริยะทันที โดยได้ยื่นหนังสืออุทธรณ์คำสั่งไม่เพิกถอนเอกสารแสดงสิทธิในที่ดินที่ทับซ้อนกับที่ดินของการรถไฟแห่งประเทศไทย บริเวณทางแยกเขากระโดง ตำบลอิสาณ และตำบลเสม็ด และอำเภอเมืองบุรีรัมย์ จังหวัดบุรีรัมย์ ไปแล้วตั้งแต่วันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 เพื่อคัดค้านกรณีที่คณะกรรมการสอบสวนตามมาตรา 61 มีมติไม่เพิกถอนเอกสารสิทธิ์ที่ดินทับซ้อนเขากระโดง จังหวัดบุรีรัมย์
ทั้งนี้ หากกรมที่ดินดำเนินการเพิกถอนโฉนดที่ดินที่ทับซ้อนในบริเวณดังกล่าว การรถไฟฯ ได้วางกรอบแนวทางการแก้ไขปัญหาของประชาชนในพื้นที่ไว้เบื้องต้น โดยให้ประชาชนสามารถขอเช่าที่ดินบริเวณดังกล่าวในหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการเช่าสำหรับอยู่อาศัย การเช่าสำหรับทำการเกษตร หรือการเช่าสำหรับเชิงพาณิชย์ เพื่อให้ประชาชนสามารถใช้ประโยชน์ที่ดินได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายต่อไปได้
วีริศยืนยันอีกว่า ทุกขั้นตอนของการดำเนินการแก้ไขปัญหาที่ดินเขากระโดงนั้น การรถไฟฯ ปฏิบัติตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเคร่งครัดด้วยความโปร่งใสและเป็นธรรม
ทั้งนี้ มีรายงานข่าวจากกรมที่ดินว่า การยื่นหนังสือประเด็นดังกล่าวมาที่กรมที่ดินนั้นไม่มีประโยชน์ เพราะตามหนังสือที่กรมที่ดินเคยแจ้งไปยังการรถไฟฯ ว่าแนวทางที่ถูกต้องคือต้องไปอุทธรณ์ต่อศาลแพ่ง พร้อมหลักฐานใหม่ประกอบ หากจะดำเนินการเพิกถอนตามวัตถุประสงค์ดังกล่าว ขณะเดียวกันการรถไฟฯ ต้องฟ้องขับไล่ผู้ครอบครองที่ดินเป็นรายแปลงจำนวน 900 กว่าแปลง
“ประเด็นคือแผนที่ของการรถไฟฯ เป็นแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกากำหนดเขตที่ดินที่จะเวนคืนเพื่อสร้างทางรถไฟหรือไม่ กรมที่ดินเห็นว่าเป็นแผนที่ปี 2539 ที่นำไปอ้างในศาลเพื่อแก้ปัญหาที่ดินทำกินของประชาชน ไม่ใช่แผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกา การรถไฟฯ ต้องพิสูจน์ว่าแผนที่ที่ทำไปอ้างในศาลเป็นแผนที่ท้ายพระราชกฤษฎีกาหรือไม่ หรือเป็นแผนที่ที่มาจากที่ใด” แหล่งข่าวกล่าว