วันนี้ (9 พฤษภาคม) ศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เดินทางมายื่นคำร้องชี้เบาะแสให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบ ไต่สวน สอบสวน กรณีมีผู้ทำบัตรส่วนลดพรรคสีส้มแจกจ่ายให้กับลูกค้าที่ใช้บริการซื้อขายสินค้า โดยการจัดทำรหัสโค้ดเป็นส่วนลดให้ ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการช่วยหาเสียงให้กับพรรค อาจเข้าข่ายการให้ หรือจัดเตรียมเพื่อจะให้ซึ่งผลประโยชน์อื่นใดที่อาจคำนวณเป็นเงินได้ หรือจูงใจให้เข้าใจผิดในคะแนนนิยมของผู้สมัครหรือพรรคการเมืองได้
ซึ่งการทำบัตรส่วนลดหาเสียงดังกล่าว เป็นหน้าที่ของ กกต. ที่จะต้องดำเนินการไต่สวนหาข้อเท็จจริงเพิ่มเติม ว่าพรรคดังกล่าวจัดทำขึ้น หรือมีผู้หวังดีจัดทำขึ้นนั้น ถือว่ามีความผิดตามกฎหมายหรือไม่ เพราะนอกจากพยานหลักฐานบางส่วนที่สมาคมนำมายื่นให้ในวันนี้แล้ว กกต. จำต้องดำเนินการตรวจสอบต่อไปตามอำนาจหน้าที่ หากพบว่าเป็นไปตามคำร้องและตามหลักฐาน ก็อาจถือว่าเป็นการฝ่าฝืนกฎหมายเลือกตั้งตามมาตรา 73 (1) และ (5) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) 2561 ที่กำหนดห้ามมิให้ผู้สมัครหรือผู้ใดกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดเพื่อจูงใจให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งลงคะแนนให้แก่ตนเองหรือผู้สมัครอื่นด้วยวิธีการที่ไม่เป็นไปตามกฎหมายข้างต้นได้
นอกจากนั้น ยังพบว่ามีร้านค้าหลายแห่งกระทำการช่วยหาเสียงให้กับพรรคสีส้ม ด้วยวิธีการพิมพ์ข้อความลงในสลิปใบเสร็จว่าให้ไปช่วยเลือกพรรคสีส้มในวันที่ 14 พฤษภาคม 2566 ด้วย ซึ่งการกระทำดังกล่าวอาจเป็นการช่วยหาเสียงให้กับพรรคการเมือง ซึ่งพรรคการเมืองดังกล่าวจะต้องนำมาคิดเป็นค่าใช้จ่ายในการรายงานค่าใช้จ่ายในการหาเสียงตามที่ กกต. กำหนดภายใน 90 วันหลังจากการเลือกตั้งตามมาตรา 67 ประกอบมาตรา 63 มาตรา 64 แห่ง พ.ร.ป.เลือกตั้ง ส.ส. 2561 ด้วย หากไม่รายงาน หรือรายงานแต่ไม่ตรงกับข้อเท็จจริง ก็อาจมีความผิดตามมาตรา 155 ได้
ดังนั้น หากหัวหน้าพรรคการเมืองดังกล่าวจงใจยื่นเอกสารหรือหลักฐานไม่ถูกต้องครบถ้วนตามมาตรา 67 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 5 ปี แต่ถ้าบัญชีรายรับและรายจ่ายที่ยื่นตามมาตรา 67 เป็นเท็จ หัวหน้าพรรคการเมืองดังกล่าวต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 1-5 ปี และปรับตั้งแต่ 20,000-100,000 บาท และศาลจะสั่งเพิกถอนสิทธิเลือกตั้งของผู้นั้นมีกำหนด 20 ปีอีกด้วย
“หลักฐานดังกล่าวที่สมาคมยื่นให้ กกต. วันนี้ คงต้องรอนำไปตรวจสอบอีกครั้งหลังจากพรรคดังกล่าวยื่นบัญชีค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งภายใน 90 วันหลังเลือกตั้ง ซึ่ง กกต. จะประกาศเผยแพร่ให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไป ถึงเวลานั้นถ้าหลักฐานที่สมาคมนำมายื่นในวันนี้ไม่ปรากฏในบัญชีคงเป็นเรื่องแน่” ศรีสุวรรณกล่าวในที่สุด