กรมสอบสวนคดีอาญาของศรีลังกาเปิดเผยวานนี้ (31 พฤษภาคม) ว่าได้เข้าสอบสวนกัปตันเรือสินค้า X-Press Pearl พร้อมด้วยหัวหน้าวิศวกรและรองหัวหน้าวิศวกรประจำเรือ ภายหลังเกิดเหตุไฟไหม้เรือนาน 11 วัน เริ่มตั้งแต่วันที่ 20 พฤษภาคม ทำให้ตู้คอนเทนเนอร์หลายตู้ร่วงลงน้ำและเม็ดพลาสติกหลายตันลอยปกคลุมไปทั่วผืนน้ำและชายหาดบริเวณชายฝั่งตะวันตกของกรุงโคลัมโบ ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อระบบนิเวศทางทะเล
การสอบสวนดังกล่าวมีขึ้นหลังสำนักงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อมทางทะเล (MEPA) ของศรีลังกา ได้ยื่นร้องเรียนเมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ว่ากรณีไฟไหม้เรือ X-Press Pearl ได้ทำลายสิ่งแวดล้อมทางทะเลของศรีลังกาขั้นรุนแรง
ซึ่งทางการศรีลังกาประกาศเตรียมดำเนินการฟ้องร้องบริษัทเจ้าของเรือและได้ตั้งทีมสืบสวนพิเศษ 10 นายเข้าสืบสวนในเรื่องนี้ โดยการสอบสวนมีขึ้นที่โรงแรมในโคลัมโบ ที่ลูกเรือทั้งหมดถูกกักตัวไว้ตามมาตรการป้องกันโควิด-19 และใช้เวลาสอบสวนกัปตันเรือและวิศวกรคนละ 12-14 ชั่วโมง ขณะที่ข้อมูลการสอบสวนที่บันทึกไว้ทั้งหมดจะถูกส่งต่อไปยังอัยการสูงสุด และยังมีการรวบรวมข้อมูลและความเห็นจากผู้เชี่ยวชาญในกรณีที่เกิดขึ้นด้วย
สำหรับจุดที่ได้รับผลกระทบจากเม็ดพลาสติกจำนวนมหาศาลนั้น รวมถึงชายหาดที่เป็นแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง โดยรัฐบาลศรีลังกาประเมินว่าอาจมีสัตว์น้ำจำนวนมากตายเพราะขยะพลาสติกและมลพิษที่เกิดจากเหตุไฟไหม้เรือ
ขณะเดียวกันรัฐบาลยังประกาศเตรียมจ่ายเงินชดเชยแก่ชุมชนชาวประมง หลังจำเป็นต้องประกาศห้ามทำประมงในพื้นที่ระยะ 80 กิโลเมตรตลอดแนวชายฝั่ง ซึ่งส่งผลให้ชาวประมงจำนวนมากขาดรายได้
สำหรับการเก็บกวาดเศษเม็ดพลาสติกดังกล่าว ทางการได้ระดมกำลังเจ้าหน้าที่รัฐ ทหารและอาสาสมัครเร่งเก็บกวาดอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าอาจเป็นภารกิจที่ต้องใช้เวลานาน ซึ่งได้มีการนำเครื่องมือและเทคโนโลยีเข้ามาช่วยให้การเก็บกวาดรวดเร็วขึ้น
ขณะที่ MEPA ประกาศข้อแนะนำแก่ประชาชนในพื้นที่ว่าไม่ควรสัมผัสกับเม็ดพลาสติกหรือเศษซากอื่นๆ ที่ลอยมาเกยตื้น เนื่องจากอาจมีการปนเปื้อนของสารอันตราย โดยเรือ X-Press Pearl นั้นยังมีการบรรทุกกรดไนตริกและสารเคมีเป็นพิษ น้ำหนักรวมกว่า 25 ตัน
ด้านกองทัพเรือศรีลังกาเปิดเผยวานนี้ว่า เปลวเพลิงส่วนใหญ่ถูกดับจนเหลือเพียงจุดไฟไหม้เล็กๆ บริเวณท้ายเรือ โดยโครงสร้างของลำเรือไม่เกิดความเสียหายและไม่มีน้ำมันรั่ว
ภาพ: AFP
อ้างอิง:
