วันนี้ (15 พฤศจิกายน) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การเดินทางเยือนสหรัฐอเมริกาของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ได้ดึงเงินลงทุนจากต่างประเทศเข้ามาในไทย ซึ่งจะเป็นประโยชน์ต่อประเทศอย่างมหาศาล ดังนี้
- ดึงเงินลงทุน Data Center ขนาดใหญ่ เฉลี่ยแห่งหนึ่งลงทุนประมาณ 5 พันล้านดอลลาร์ หรือ 170,000 ล้านบาท โดยนายกรัฐมนตรีได้ดึงบริษัท Microsoft, Google, AWS, Tencent และ Alibaba มาร่วมแล้ว 850,000 ล้านบาท ซึ่งเท่ากับ 4.8% ของ GDP
- ทำให้มีโครงสร้างพื้นฐานในการทำให้ประเทศไทยกลายเป็นศูนย์กลางทางด้าน AI ของภูมิภาค
- สร้างความพร้อมในการพัฒนาให้ไทยเป็น Smart City เช่น การทำให้มีความสามารถในการประมวลผลข้อมูลจาก Internet of Things
- ดึงให้อุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องขยายการผลิตในไทย เช่น ผู้ผลิต Hard Disk Drive
- สร้างงานเป็นจำนวนมากจากขยายตัวของอุตสาหกรรมที่อยู่ในห่วงโซ่อุปทาน
- ทำให้เกิดการพัฒนาความรู้ความสามารถสำหรับโลกอนาคตให้ประชาชนชาวไทย เช่น AI, Cloud Infrastructure, Robotics
- สร้างดีมานด์มหาศาลให้เกิดการพัฒนาพลังงานไฟฟ้า Renewable และเกิดการใช้พลังงานที่ประเทศไทยผลิตเกิน ทำให้ค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าลดลง
- พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้รัฐสามารถบูรณาการข้อมูลของรัฐ ทำให้รัฐให้บริการประชาชนได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น รวมถึงการนำ AI มาช่วยให้การทำงานรวดเร็วขึ้น
และ 9. ลดการซ้ำซ้อนของการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานของรัฐ (เช่น หน่วยงานรัฐสามารถ Optimize การลงทุนในเซิร์ฟเวอร์และการบริหารจัดการได้)
การดึงบริษัทยักษ์ใหญ่หลายบริษัทมาลงทุนด้าน Data Center ได้พร้อมกันในครั้งนี้ นับเป็นความสำเร็จของ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี เพราะที่ผ่านมาไทยขาดการลงทุนในด้านนี้มาโดยตลอด