วันนี้ (20 กรกฎาคม) ที่พรรคเพื่อไทย เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่แกนนำพรรคเพื่อไทยและพรรคก้าวไกลประชุมทิศทางการจัดตั้งรัฐบาลว่า ตนไม่ได้เข้าไปในการประชุมนี้ ตนไม่ได้อยู่ในคณะเจรจาและคณะกรรมการบริหาร ยังไม่ได้มีข้อสรุปว่าตนได้ถูกเสนอชื่อเป็นนายกรัฐมนตรีในที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 กรกฎาคมนี้หรือไม่ ตนเพียงได้รับฟังจากแกนนำพรรคว่าได้พูดคุยกันแต่ยังหาข้อสรุปไม่ได้ ต้องรอให้ต่างฝ่ายต่างคุยกันให้ได้ข้อสรุปก่อน
เชื่อว่าขณะนี้ยังมีเวลาพิจารณาอยู่ ไม่ได้ล่าช้า ก่อนที่จะประชุมรัฐสภา ซึ่งเราต้องให้เกียรติ 8 พรรคร่วมรัฐบาลด้วย เพราะต้องให้พรรคก้าวไกลที่เป็นพรรคอันดับ 1 ไปเจรจากันเองภายในก่อน
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่าตนมีเงื่อนไขในการร่วมรัฐบาล ถ้าหากถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ เศรษฐากล่าวว่า ยังไม่ได้เห็นเงื่อนไขของตัวเองเลย ไม่รู้ว่าเป็นข่าวลือกันหรือไม่ ตนก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ขอให้รอกันอีกนิด รอให้ 8 พรรคร่วมรัฐบาลคุยกันและมีข้อสรุปก่อน เพื่อเป็นบรรทัดฐานออกมาและมีการแถลงอย่างเป็นทางการ ให้เดินไปอีกขั้นหนึ่งก่อนดีกว่า และถ้าตนพร้อมตนจะบอกอีกครั้ง ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีอะไรที่ตนอยากจะแถลงข่าว หรือข้อกำหนดเงื่อนไขยังไม่มีเลย
เมื่อถามย้ำถึงกระแสข่าวกรณีเงื่อนไขที่ระบุว่าจะไม่ร่วมรัฐบาลกับพรรคประชาธิปัตย์หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ และจะขอเป็นคนจัดตั้งคณะรัฐมนตรีเองทั้งหมด เศรษฐากล่าวว่า “มันเป็นไปไม่ได้หรอกครับ มันเป็นรัฐบาลผสม เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที”
ส่วนกรณีที่ ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ อดีตนักการเมือง เตรียมเปิดเผยข้อมูลเรื่องที่ดิน เศรษฐากล่าวว่า ตนเคยทำธุรกิจมานาน ก็มั่นใจว่าบริษัทเก่าที่ตนได้ทำมาก็ทำมาด้วยดี ไม่ได้มีปัญหาอะไร
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่เมื่อจะก้าวขึ้นมาเป็นแคนดิเดตนายกฯ ที่จะถูกเสนอชื่อเป็นนายกฯ ในรัฐสภาเหมือน พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกฯ พรรคก้าวไกล ก็มีประเด็นที่จะถูกแฉเรื่อยๆ เศรษฐากล่าวว่า เขาก็แฉกันมาตลอด ตั้งแต่วันแรกที่เดินเข้ามา เขาก็บอกว่ามีเรื่องที่จะแฉ แต่ก็ไม่เป็นไร ตนเข้าใจ เมื่อมาอยู่ตรงจุดนี้ก็ต้องระมัดระวัง ยืนยันว่าตนมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเอง
