เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์กับ Nikkei Asia โดยระบุว่า เศรษฐกิจไทยอยู่ในภาวะย่ำแย่ (Poor Condition) เห็นได้จากการเติบโตของ GDP ไตรมาสที่ 1.5% เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันในปีก่อน พร้อมระบุอีกว่า “เรากำลังแข่งขันเพื่อแย่งชิงการลงทุนจากต่างประเทศจากส่วนต่างๆ ของโลก หากประเทศอื่นๆ รอบตัวเติบโต 3% หรือ 5% แต่ไทยเติบโตที่ 1.5% ผมคิดว่ามีปัญหา”
ทั้งนี้ การเติบโตของเศรษฐกิจไทยในไตรมาสที่ 3 นับว่าชะลอตัวกว่าเพื่อนบ้านหลายประเทศในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ฟิลิปปินส์ เวียดนาม จีน อินโดนีเซีย และมาเลเซีย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ก่อนหน้านี้เศรษฐาได้ประกาศตั้งเป้าให้เศรษฐกิจไทยโตเฉลี่ย 5% ต่อปีตลอดวาระ
โดยเศรษฐายังกล่าวว่า โครงการดิจิทัลวอลเล็ตน่าจะเริ่มดำเนินการได้ในเดือนพฤษภาคมปีหน้า
ทั้งนี้ มาตรการกระตุ้นการบริโภคถือเป็นสิ่งที่รัฐบาลไทยชุดใหม่ ซึ่งเพิ่งเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ 3 เดือน ให้ความสำคัญควบคู่ไปกับมาตรการลดค่าครองชีพและการดึงดูดการลงทุนจากต่างประเทศ
เศรษฐาซึ่งเรียกตัวเองว่า ‘Salesman’ มักเดินทางไปหาเงินลงทุนจากต่างประเทศ โดยในเดือนพฤศจิกายนเศรษฐาได้คว้าคำมั่นสัญญาการลงทุนมูลค่า 3 แสนล้านบาทจากกลุ่มเทคโนโลยีรายใหญ่ของสหรัฐฯ ได้ 3 กลุ่ม ได้แก่ Amazon Web Services, Google และ Microsoft นอกจากนี้เศรษฐายังกล่าวอีกว่า ไทยใกล้จะบรรลุข้อตกลงกับ Tesla และบริษัทอื่นๆ แล้ว
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา เราไม่ได้เปิดรับธุรกิจ ดังนั้นแรงจูงใจด้านภาษีและความพร้อมด้านพลังงานสะอาดจะมีความสำคัญมาก” เศรษฐากล่าว
เศรษฐาเตรียมจะเดินทางไปญี่ปุ่นในวันพฤหัสบดีนี้ (14 ธันวาคม) เพื่อเข้าร่วมการประชุมสุดยอดอาเซียน-ญี่ปุ่น (ASEAN – Japan Summit) การประชุมทวิภาคีกับ ฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีของญี่ปุ่น และพบปะกับบริษัทญี่ปุ่นที่มีฐานการผลิตในประเทศไทย
ปัจจุบันโครงการดิจิทัลวอลเล็ตกำลังเผชิญกับความล่าช้าและด่านต่างๆ เช่น ด่านกฤษฎีกา ด่านรัฐสภา และด่านศาลรัฐธรรมนูญที่ต้องผ่านไปให้ได้ โดย Nikkei ยังรายงานว่า อุปสรรคนี้สร้างความกังวลเกี่ยวกับความเสี่ยงทางการเมืองให้พรรคเพื่อไทย และทำให้เกิดการคาดเดาว่าเศรษฐาอาจถูกบังคับให้ลาออกจากตำแหน่งภายในกลางปีหน้า
โดยนายกฯ ได้ตอบ Nikkei ว่า “ไม่ ผมจะไม่ (ลาออก) ทำไมผมต้องทำด้วย ผมเป็นผู้นำของรัฐบาลและผมได้กำหนดเส้นทางสำหรับประเทศไทยที่จะไปต่อ สมาชิกพรรคทุกคนที่อยู่ในรัฐบาลตระหนักดีว่า ประเทศต้องการอะไร และพวกเขากำลังพยายามส่งมอบให้ได้ภายใต้การนำของผม
“ผมมาอยู่ตรงนี้เพื่อทำให้ความเป็นอยู่ของผู้คนถูกยกระดับขึ้นไปอีกขั้น ผมยังเชื่อในการผลักดันประเทศไทยไปสู่ศักยภาพ” เศรษฐากล่าว
อ้างอิง: