วันนี้ (9 กันยายน) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่นและอุดรธานี ว่าสองจังหวัดเป็นเมืองใหญ่ มีสนามบินศักยภาพสูงในการพัฒนา ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยวและภาคอุตสาหกรรม ซึ่ง 3 วันมานี้ได้พบกับภาคเอกชนและข้าราชการเพื่อรับฟังปัญหา
สำหรับเรื่องรถไฟรางคู่เฟส 2 ช่วงขอนแก่น-หนองคายนั้น เมื่อเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ก็คงจะเรียบร้อย เพราะมีการกันงบประมาณไว้แล้ว ถือเป็นเรื่องเร่งด่วน แต่ก็ต้องทำควบคู่กันไปกับจุดเปลี่ยนถ่ายสินค้า และทำให้สะพานมิตรภาพไทย-ลาว รับน้ำหนักได้มากขึ้น การเจรจากับ สปป.ลาวและต้องมีการทำ One Stop Service เพื่ออำนวยความสะดวกให้ภาคเอกชน
เศรษฐากล่าวถึงการลงพื้นที่ภาคอีสานหลังได้รับตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่าครั้งนี้รู้สึกอบอุ่นมากกว่าช่วงหาเสียง เมื่อถูกวิพากษ์วิจารณ์หรือต้องการกำลังใจ การได้มาลงพื้นที่ภาคอีสานทำให้มีกำลังใจในการกลับไปทำงาน
ส่วนแนวคิดการประชุม ครม.สัญจรนอกสถานที่ ได้คุยกับรองนายกรัฐมนตรีและเลขาธิการนายกรัฐมนตรีแล้วว่า ถ้าจะประชุม ครม.นอกสถานที่ โดยวางไว้ว่าจะเป็นจังหวัดหนองบัวลำภูเป็นที่แรก เนื่องจากเป็นพื้นที่ที่มีรายได้ประชากรต่อหัวต่ำที่สุดของประเทศ และเป็นจังหวัดที่ให้ความสำคัญเนื่องจากมีปัญหาภัยแล้ง รวมถึงปัญหายาเสพติด ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่หยั่งรากลึกมากในภาคอีสาน