วันนี้ (2 ตุลาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง กล่าวถึงการเชิญ เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อหารือและแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้านเศรษฐกิจและการเงินว่า เป็นการประชุมที่มีประโยชน์ และหลังจากนี้ก็จะมีการนัดพบปะหารือในลักษณะนี้เป็นประจำทุกเดือน
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ได้คุยอะไรกับผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยบ้าง เศรษฐาตอบว่า คุยกันทุกเรื่อง ตั้งแต่เรื่องนโยบาย สถานการณ์เศรษฐกิจ ไปจนถึงเงินบาท
“ในฐานะผู้บริหารสูงสุด ผมก็ต้องรับฟังความคิดเห็นของท่าน (ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย) เป็นธรรมดา ในเรื่องสถานการณ์เศรษฐกิจโดยรวม และทุกๆ นโยบายที่เราทำกัน ผมก็รับฟังทั้งความคิดเห็น ข้อกังวล และข้อเสนอแนะ”
นอกจากนี้ เศรษฐากล่าวอีกว่า “การพูดคุยก็มีทั้งเรื่องที่เห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เพราะเราต่างคนก็ต่างเป็นผู้หลักผู้ใหญ่เหมือนกัน จะเห็นพ้องด้วยกันทุกเรื่องคงเป็นไปไม่ได้ แต่เราก็คุยกันด้วยเหตุด้วยผล” อย่างไรก็ตาม เศรษฐาย้ำว่า “ไม่มีประเด็นความขัดแย้งกันอย่างแน่นอน”
ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า การหารือวันนี้จะนำไปสู่การทบทวนนโยบายหรือไม่ เศรษฐาตอบว่า “การคุยกันวันนี้จะนำไปสู่การทบทวนนโยบายอย่างแน่นอน ต่างคนต่างต้องทบทวน ไม่เช่นนั้นจะเรียก (ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย) มาทำไม ผมไม่ได้จะจัดฉาก แต่จะพูดคุยเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติ ท่านเองก็ดูแลเรื่องเสถียรภาพการเงินการคลังของประเทศอยู่ ถ้าผมเชิญท่านมา ผมก็ต้องให้คุณค่า (Value) กับความคิดเห็น (Opinions) ของท่านผู้ว่าฯ แน่นอน”
ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า หลังจากการพูดคุยครั้งนี้จะมีการปรับนโยบายอะไรหรือไม่ เศรษฐาตอบว่า “ยังไม่มี โดยนโยบายที่ออกไปแล้วก็ต้องรับฟังกันและกัน และต้องพูดคุยกันอย่างต่อเนื่อง โดยนัดครั้งต่อไปน่าจะเกิดขึ้นในอีก 1-2 สัปดาห์ข้างหน้า หรือเร็วกว่านั้นหากต้องการ แต่น่าจะมีการคุยโทรศัพท์กันบ่อยขึ้น
“ท่านผู้ว่าฯ มีการฝากนโยบายหลายๆ เรื่องไว้ว่าน่าจะทำตรงนี้นะ น่าจะทำตรงนั้นนะ ส่วนนโยบายในอนาคตหลายๆ เรื่องผมก็เรียนถามท่านไปว่า ผมกำลังคิดเรื่องนี้อยู่นะ ท่านคิดว่าอย่างไร สรุปก็คือ ต่อไปนี้ถ้าผมจะทำอะไร ผมก็จะคุยกับท่านให้บ่อยขึ้น” เศรษฐากล่าว
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า กังวลกับการอ่อนค่าของเงินบาทอย่างต่อเนื่องหรือไม่ เศรษฐาตอบว่า “ผมกังวลทุกเรื่องครับ ผมกังวลทุกเรื่องที่เกี่ยวกับปากท้องของพี่น้องประชาชนครับ ไม่ต้องห่วง”