วันนี้ (14 ตุลาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือคนไทยจากเหตุการณ์ความรุนแรงในตะวันออกกลางว่า เมื่อสักครู่ได้รับแจ้งจากทูตไทยในอิสราเอลว่าเครื่องบินที่นำคนไทยกลับประเทศเพิ่งเดินทางออกมาอีกลำ ซึ่งถือเป็นเรื่องดี
แต่เรื่องที่น่ากังวลใจอยู่ คือมีคนไทยที่อยู่ในรายชื่อเดินทางกลับไม่ปรากฏตัว ติดต่อไม่ได้ บางส่วนเปลี่ยนใจไม่กลับ แต่ที่น่าเป็นห่วงคือบางคนแสดงเจตจำนง แต่แจ้งมาว่าออกจากพื้นที่ไม่ได้ เพราะมีการถล่มจรวดมาต่อเนื่อง เป็นเรื่องน่ากังวล เพราะความรุนแรงของสงครามไม่ได้ลดน้อยลงไป รัฐบาลจะจัดเครื่องบินให้ได้เยอะที่สุด มาไม่ได้ไม่เป็นไร แต่พยายามลำเลียงออกมา และทูตฯ ก็แจ้งว่าทหารอิสราเอลก็ช่วยลำเลียงคนจากจุดสุ่มเสี่ยงเต็มที่
เมื่อถามว่าทูตปาเลสไตน์เสนอให้รัฐบาลใช้ความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอล เพื่อดึงอิสราเอลมาเจรจาสันติภาพกับปาเลสไตน์ เศรษฐากล่าวว่า ตนเชื่อว่าคงมีการเจรจากันอยู่แล้ว ขอยืนยันว่าเราไม่ใช่คู่ขัดแย้ง เป็นเพียงผู้บริสุทธิ์ที่เดือดร้อน หน้าที่ของตนในฐานะนายกฯ คือต้องให้คนไทยปลอดภัยเยอะที่สุด ทั้งคนที่ตกค้างอยู่ หรือคนที่ได้รับบาดเจ็บ และที่น่ากังวลมากคือคนที่ตกเป็นตัวประกันเป็นเรื่องสำคัญมาก เราจะใช้ทุกทางทั้งทางปาเลสไตน์หรือประเทศอื่นที่มีความสัมพันธ์ที่ดี เพราะสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของคนไทย