วันนี้ (7 ตุลาคม) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมด้วย สุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เกรียง กัลป์ตินันท์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ไชยา พรหมา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ มนพร เจริญศรี รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงคมนาคม ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ พบปะประชาชน และมอบสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยให้แก่ประชาชน และถุงยังชีพเกษตรกร อย่างละ 300 ชุด ที่บ้านทรายงาม ตำบลกุดกุง อำเภอคำเขื่อนแก้ว จังหวัดยโสธร ซึ่งได้รับผลกระทบจากแม่น้ำชีเอ่อล้นท่วมพื้นที่การเกษตรและถนนทางเข้าหมู่บ้าน ทำให้ต้องใช้รถขนาดใหญ่ในการสัญจรเข้าออกหมู่บ้าน
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กราบนมัสการพระครูเมธีธรรมบัณฑิต เจ้าคณะอำเภอคำเขื่อนแก้ว พร้อมถวายผ้าไตรและจตุปัจจัยไทยธรรม ด้านพระครูได้มอบพระพุทธบุษยรัตน์จำลอง ขนาดหน้าตัก 5 นิ้ว พระคู่บ้านคู่เมืองจังหวัดยโสธร พร้อมเหล็กไหลของทางวัด รวมทั้งผูกข้อมือให้พรกับนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีที่ร่วมคณะ รวมทั้งสอบถามนายกรัฐมนตรีถึงเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เพราะชาวบ้านรออยู่ ขอให้นายกรัฐมนตรีทำให้สำเร็จ
ด้านนายกรัฐมนตรีได้กล่าวยืนยันว่า “ขณะนี้รัฐบาลทำอยู่ ต้องทำครับ เพราะมีคนมาต่อต้าน แต่ก็ไม่กี่คนหรอกครับ แต่เราก็ต้องทำ เพราะเป็นเรื่องสำคัญสำหรับพี่น้องประชาชน ต้องทำครับ”
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้เดินพบปะกับประชาชนที่มารอต้อนรับ พร้อมระบุว่าจะหาแนวทางช่วยเหลือด้วยการยกระดับความสูงของถนนที่เข้าหมู่บ้าน เพื่อให้เดือดร้อนน้อยลงในช่วงที่น้ำท่วมสูง นอกจากนี้จะมีการสร้างสะพานเพิ่มในบางจุด
นอกจากนี้คุณยายวัย 70 ปี บอกกับนายกรัฐมนตรีว่าดีใจที่จะได้ใช้เงิน ไม่มีโทรศัพท์ เพราะใช้ไม่เป็น นายกรัฐมนตรีจึงกล่าวว่าไม่เป็นไร บัตรประชาชนใบเดียวก็พอแล้ว เป็นหน้าที่ของนายกรัฐมนตรีที่จะต้องดูแลทั้งเรื่องสุขภาพ ดูแลประชาชน ตนไม่อยากให้ลำบาก ตนมาเพราะต้องการลงพื้นที่เพื่อดูแลทุกข์สุขของประชาชนอย่างแท้จริงตอนนี้ไม่ใช่ช่วงเวลาหาเสียง อยากให้ประชาชนมีชีวิตที่ดี พร้อมสอบถามเรื่องปัญหายาเสพติดในพื้นที่ ซึ่งต้องขอให้ผู้ใหญ่และพ่อแม่ดูแลบุตรหลานให้ดีๆ
จากนั้นนายกรัฐมนตรีได้กล่าวกับประชาชนว่า ตนมีความไม่สบายใจและเห็นใจทุกท่าน การสัญจรไปมาก็ลำบาก จะไปหาหมอก็ลำบาก พืชผลเสียหาย วันนี้รัฐมนตรีก็มาด้วย บ่งบอกว่าเราให้ความสำคัญกับปัญหาของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้ เรื่องการป้องกันน้ำท่วมทำได้หลายมิติ ในระยะยาวต้องมีการบริหารจัดการน้ำตามที่ผู้ว่าราชการจังหวัดได้เสนอขุดคูคลองเพิ่ม ตรงนี้ถือเป็นแผนระยะยาว แต่ระยะสั้นเรื่องการปล่อยน้ำ ทางกรมชลประทานรับปากว่าจะไปทบทวนดูแลวิธีกักน้ำ ปล่อยน้ำ ซึ่งหากเกิดอุทกภัยหน่วยงานก็มาดูแลช่วยเหลือบำบัดทุกข์ให้พี่น้องประชาชน แต่เราไม่อยากให้ถึงจุดนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวสัญญาว่าจะทำถนนและสะพานอีก 2 สะพานที่น้ำท่วม ซึ่งจะต้องจัดการโดยเร็ว
“วันนี้ดีใจที่ได้มาพบปะพูดคุย แม้มาในสภาพที่น้ำท่วม ไม่ค่อยน่ายินดีสักเท่าไร แต่ก็อยากมาในบริบทที่มีรอยยิ้มอย่างจริงจัง ผมมาเพียงวันเดียวยังเศร้าใจ เข้าใจถึงความลำบาก วันนี้ที่มาที่นี่มาพร้อมกับเจ้าหน้าที่รัฐทุกฝ่าย ซึ่งทุกคนเข้าใจและสัญญาจะกลับมาดูแลพี่น้องประชาชน” นายกรัฐมนตรีกล่าว
ทั้งนี้ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างเดินทางกลับตามเส้นทางซึ่งมีน้ำท่วมสูงเป็นระยะ นายกรัฐมนตรีได้ลงลุยน้ำและนำถุงยังชีพไปแจกจ่ายให้กับชาวบ้านที่ประสบความเดือดร้อนตามรายทาง พร้อมให้กำลังใจว่าขอให้สู้ อดทนอีกหน่อย รัฐบาลพร้อมช่วยเหลือ
