วันนี้ (16 พฤศจิกายน) (ตามเวลาท้องถิ่นนครซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกา) ที่ศูนย์การประชุมมอสโคนีเซ็นเตอร์ เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง หารือทวิภาคีกับ จัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดา และ แอนโทนี อัลบาเนซี นายกรัฐมนตรีเครือรัฐออสเตรเลีย
หารือแคนาดา เจรจา FTA
นายกรัฐมนตรีระบุว่า การเข้าร่วมประชุมในครั้งนี้เพื่อประกาศให้ทราบว่า ประเทศไทยเปิดแล้ว และพร้อมรับการลงทุน การเกิดสถานการณ์ระหว่างประเทศทำให้เกิดการย้ายฐานการผลิตมาภูมิภาคอาเซียน เช่น ไทย และเวียดนาม มากขึ้น โดยมีภาคเอกชนชั้นนำต่างประเทศเข้ามาผลิตรถยนต์ไฟฟ้าในไทยมากขึ้น ในครั้งนี้มีโอกาสได้พบหารือกับภาคเอกชนชั้นนำหลายรายที่กำลังพิจารณาใช้ไทยเป็นฐานการผลิต
ด้านนายกรัฐมนตรีแคนาดากล่าวว่า แคนาดาพร้อมทำงานร่วมกับรัฐบาลของไทยทั้งในระดับทวิภาคีและภูมิภาค ซึ่งสถานการณ์ระหว่างประเทศทำให้ภาคเอกชนจะต้องเพิ่มศักยภาพความยืดหยุ่นในภาคการผลิตมากขึ้น รวมทั้งกระชับความร่วมมือระหว่างประเทศให้ลึกซึ้งมากยิ่งขึ้นด้วย ไทยถือเป็นประเทศคู่ค้ารายสำคัญของแคนาดา อย่างไรก็ตาม ไทยและแคนาดายังไม่มี FTA ระหว่างกัน โดยทั้งสองฝ่ายเห็นว่าความตกลง FTA ระหว่าง ASEAN-Canada ซึ่งกำลังเจรจากันอยู่น่าจะเป็นโอกาสที่ดีให้ทั้งสองฝ่ายใช้ประโยชน์จาก FTA ดังกล่าว
ไทยเตรียมบินถกร่วม อาเซียน-ออสเตรเลีย เดือนมีนาคม 2567
เศรษฐายืนยันความพร้อมที่จะเข้าร่วมการประชุมสุดยอดสมัยพิเศษ เพื่อฉลองครบรอบ 50 ปี ความสัมพันธ์อาเซียน-ออสเตรเลียในเดือนมีนาคม 2567 ซึ่งจะพาภาคเอกชนร่วมคณะไปด้วย โดยไทยและออสเตรเลียมี FTA ที่มีความก้าวหน้ามาก มีการแลกเปลี่ยนและความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนที่ใกล้ชิด การท่องเที่ยวเป็นนโยบายที่สำคัญของรัฐบาลและเศรษฐกิจไทย โดยคนออสเตรเลียนิยมเดินทางมาท่องเที่ยวประเทศไทยจำนวนมาก ในขณะที่คนไทยก็นิยมท่องเที่ยวออสเตรเลีย เนื่องจากมีความปลอดภัย ทั้งนี้ มีบริษัทชั้นนำย้ายฐานการผลิตมาไทยเป็นจำนวนมาก เช่น ด้านรถยนต์ไฟฟ้า การตั้งศูนย์ Data Center รวมถึงจะมาลงทุนในไทยด้วย
ด้านนายกรัฐมนตรีออสเตรเลียแสดงความยินดี และเชื่อมั่นในการเข้ารับตำแหน่งของนายกรัฐมนตรี และไทยถือเป็นหุ้นส่วนที่สำคัญของออสเตรเลีย ทั้งทวิภาคีและในกรอบอาเซียน โดยออสเตรเลียมีคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมากทั้งภาคธุรกิจและอาหาร เป็นต้น รวมถึงมีความร่วมมือสถาบันการศึกษาระหว่างกันอย่างดี อย่างไรก็ดี ปัจจุบัน อัตราเงินเฟ้อสูงมากเนื่องจากสถานการณ์ระหว่างประเทศจึงทำให้สินค้าในประเทศราคาสูงขึ้นและประชาชนได้รับผลกระทบ
นายกรัฐมนตรีออสเตรเลียยังยินดีที่ผู้นำอาเซียนทุกท่านได้ตอบรับเข้าร่วมการประชุมอาเซียน-ออสเตรเลียแล้ว ทั้งนี้เศรษฐกิจระหว่างออสเตรเลียกับอาเซียนมีความเกื้อหนุนกันอย่างดี ทั้งนี้ ยังได้กล่าวชื่นชมการจัดการประชุม APEC ปี 2022 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพว่าประสบความสำเร็จอย่างดียิ่ง